TWILIGHT

CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:26:29 ]







CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:26:44 ]







CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:28:03 ]







เจาะใจ โรเบิร์ต แพ็ททินสัน และ คริสเทน สจ๊วต


Twilight เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวเหนือธรรมชาติ แต่ลึกๆแล้วมันก็ยังเกี่ยวกับหนุ่มสาววัยรุ่นทั่วไปที่พูดถึงแรงรักแรงปรารถนา สิ่งเหล่านี้มันมีผลกระทบต่อการแสดงของพวกคุณอย่างไร

คริสเทน: สิ่งที่น่าสนใจคือ ถึงแม้ว่ามันจะพูดถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงโลกที่พวกเขาอยู่นั้นต่างจากความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง เหมือนกับว่าคุณจะต้องรับมือกับมันอย่างไร มันเป็นการเล่าถึงตำนานแวมไพร์ มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อ้างอิงมาจากความจริง แต่ความจริงบางข้อนั้นมันก็ขัดกับอีกข้ออย่างสิ้นเชิง มันยังเป็นเรื่องของการอธิบายถึงว่าความรักคืออะไร ว่ามันแตกต่างแค่ไหนในการตกหลุมรักกับแวมไพร์... ฉันไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดมีเหตุผลรึเปล่า ร๊อบ นายเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดไหม?

โรเบิร์ต: ไม่ (หัวเราะ) คือผมใช้เวลาอยู่นานเหมือนกันในการพยายามทำให้แวมไพร์ดูเป็นมนุษย์ที่สุด คือ เอ็ดเวิร์ด เป็นคนที่รู้ตัวเองดีว่าเขาคืออะไร และเขาก็รู้ดีว่าตัวเองจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างกับมนุษย์คนอื่นๆ เพราะโดยทั่วไปแล้วมนุษย์ธรรมดาสามารถสร้างแรงดึงดูดให้กับเผ่าพันธ์แวมไพร์ได้ แต่การเข้ามาของ เบลล่า ก็ยกระดับแรงดึงดูดที่เขาไม่เคยสัมผัสถึงมาก่อน



เอ็ดเวิร์ด และ เบลล่า เป็นวัยรุ่นที่มีความสงสัยในตัวเอง พวกเขามีความกลัวและบางครั้งก็รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง แต่การมาพบกันระหว่างสองคนนั้น ก็เหมือนเป็นส่วนประกอบหลักในการเติมเต็มให้แก่กันและกัน

คริสเทน: ฉันคิดว่าความสงสัยในตัวเองจะไม่เกิดขึ้นเฉพาะในหมู่เด็กวัยรุ่นเท่านั้น เพราะตัวละครหลักตัวหนึ่งในเรื่องมีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว ส่วนตัวละครที่ฉันเล่นเล่นนั้น เดินทางเข้ามาในเรื่องด้วยความสงสัยและความไม่มั่นใจในตัวเองมากมาย แต่เธอก็พร้อมสละทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อพบกับเขาคนนี้ มันฟังดูอาจจะไร้เดียงสา แต่เธอก็มั่นใจในการตัดสินใจของตัวเอง และตกลงใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อเขา

โรเบิร์ต: ใช่ ผมเห็นด้วยกับ คริสเทน มันยังเป็นเรื่องของมุมมองของแต่ละฝ่าย เธอเห็นเขาว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ และเขาก็เห็นเธอในแบบเดียวกัน คุณจะเห็นได้จากการที่เขาพูดกับเธอว่า "ผมจะไม่มีชีวิตถ้าปราศจากคุณ เพราะคุณคือชีวิตของผม" ซึ่งก่อนหน้าที่จะพบ เบบล่า เขาก็จะคิดอยู่กับตัวเองว่า "ฉันอยากตาย หรือไม่ก็กลับไปเป็นมนุษย์" คือผมว่าเขาเหมือนอยู่ในโลกแห่งการลงทัณฑ์ และเมื่อ เบลล่า เดินทางเข้ามาในชีวิต ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป



พวกคุณรู้สึกกดดันไหมที่ต้องเข้ามาสวมวิญญาณเป็นตัวละครที่มีคนนิยมชมชอบกันทั่วโลกเช่นนี้

คริสเทน: ตอนแรกฉันไม่ทราบถึงความหมกมุ่นของเหล่าแฟนๆเลย แต่พวกเราเริ่มรู้สึกได้ในระหว่างการถ่ายทำ แต่หลังจากนั้น ฉันก็ค่อยมารู้ว่าสิ่งที่พวกเราได้สร้างสรรค์ขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่ดูยิ่งใหญ่จริงๆ มีผู้หญิงหลายคนแสดงความเห็นเกี่ยวกับตัวฉัน ซึ่งบางครั้งมันก็อาจจะดูรุนแรงเกินไปซะหน่อย ซึ่งฉันคิดว่าตัวเองโชคดีที่เพิ่งจะมารับรู้ เพราะมันอาจจะกระทบถึงการแสดงของฉันในระหว่างถ่ายทำก็เป็นได้ และถ้าคุณรู้สึกกดดันในระหว่างแสดงแล้ว ตัวละครที่คุณเล่นนั้นก็จะไม่สามารถขึ้นมามีชีวิตได้จริงๆ

โรเบิร์ต: ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องดีในการมีความกดดัน เพราะเมื่อคุณแสดงหนังเรื่องไหนด้วยความยากลำบาก แต่สุดท้ายแล้วกลับไม่มีคนหันมาสนใจ คุณก็จะรู้สึกท้อแท้ไปกับพลังงานที่คุณอุตส่าห์ทุ่มลงไป ดังนั้นในเรื่องนี้ ที่ผมได้ใส่ทุกสิ่งทุกอย่างลงไปหมด ผมรู้ดีว่าอย่างน้อยก็มีคนรอคอยผลงานอยู่มากมาย และคุณก็ต้องพยายามทำให้มันอยู่เหนือความคาดหวังของคนดู ผมว่านั้นแหละคือเรื่องที่ท้าทายมาก



พูดถึงความสัมพันธ์ พวกคุณมีการทำความรู้จักกันอย่างไรบ้าง

คริสเทน: พวกเรานั่งคุยกันที่โต๊ะกาแฟอยู่สองวันสองคืน โดยส่วนมากแล้วจะเป็นการอ่านบทภาพยนตร์ร่วมกัน ถึงแม้ว่าพวกเราก็มีการเตรียมตัวกันมาในช่วง พรี-โปรดักชั่น แล้ว แต่ฉันคิดว่านั้นก็เป็นสองวันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด (หัวเราะ)

โรเบิร์ต: คือพวกเรามีการซ้อมบทด้วยการหลายครั้ง เพราะสถานที่ที่พวกเราเราอยู่ระหว่างถ่ายทำ มันอยู่ห่างกันแค่สองช่วงตึกเท่านั้นเอง



พวกคุณมีสิ่งที่ชอบเหมือนกันไหม เช่น ภาพยนตร์, หนังสือ, นักประพันธ์ ฯลฯ

คริสเทน: ภาพยนตร์เรื่อง Last Tango in Paris

โรเบิร์ต: ผมว่านั้นเป็นการบอกถึงความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสอง สำหรับสิ่งเราเลือกที่จะแสดงออกมาใน Twilight



คุณรู้สึกยังไงกับ คริสเท็น เช่น สไตล์ในการแสดงของเธอ หรืออะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณประทับใจในตัวเธอ

โรเบิร์ต: ผมว่า คริสเท็น เป็นนักแสดงที่เก่งที่สุดในเจเนเรชั่นนี้ และนั้นก็สิ่งที่ทำให้ผมตกลงรับบทในภาพยนตร์เรื่องนี้... ขอผมขีดฆ่าสิ่งที่พูดออกไปได้ไหม (หัวเราะ)

คริสเทน: ฉันคิดแค่ว่าเขาหล่อมาก (หัวเราะ)



--------------------------------------------------------------------------------



CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:28:42 ]







CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:29:01 ]







CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:29:21 ]







CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:29:43 ]







CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:30:06 ]







CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:30:25 ]







CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:31:12 ]







credit: mthai.com
CheesE-StraW
[ 10-12-2008 - 12:39:26 ]







“Twilight : แวมไพร์ ทไวไลท์” ขึ้นอันดับหนึ่ง บ๊อกซ์ออฟฟิศ

เป็นไปตามความคาดหมาย สำหรับภาพยนตร์แอ็คชั่น โรแมนติกที่วัยรุ่นทั้งโลกรอคอย อย่าง “Twilight : แวมไพร์ ทไวไลท์” ที่สามารถก้าวขึ้นอันดับ 1 ตารางหนังทำเงินของอเมริกาได้อย่างสง่างาม ทันทีที่หนังเข้าฉาย โดย แวมไพร์ ทไวไลท์ เข้าฉายที่อเมริกาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และสามารถทำสถิติกวาดรายได้ใน 3 วันแรก ทะลุ 2300 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าโกยอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งผลให้ แวมไพร์ ทไวไลท์ มุ่งสู่อันดับ 1 หนังทำเงิน เบียดแชมป์เก่า อย่าง 007 Quantum of Solace ให้หล่นไปอยู่อันดับ 2 ได้อย่างขาดลอย และสามารถทำรายได้เปิดตัวในสามวันแรกชนะ ที่ 007 Quantum of Solace เคยทำไว้ด้วย สำหรับตารางอันดับหนังทำเงิน ในสัปดาห์เดียวกันกับ “Twilight : แวมไพร์ ทไวไลท์” เป็นไปดังนี้



ซึ่งก่อนหน้าที่หนังจะเข้าฉาย “Twilight : แวมไพร์ ทไวไลท์” ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการภาพยนตร์ ด้วยยอดจำหน่ายบัตรล่วงหน้าถูกจองเต็มก่อนหนังเข้าฉายจริง 1 วัน ไปกว่า 2,000 โรงฉายทั่วอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดกระแสคลั่ง!!! แฟนหนังที่พลาดการจองตั๋วออนไลน์ ต่างพากันตั้งแคมป์เข้าคิวรอซื้อตั๋วข้ามวันข้ามคืน เพื่อไม่ให้พลาดชม “Twilight : แวมไพร์ ทไวไลท์” ในรอบแรกๆ

นอกจากนั้น “Twilight : แวมไพร์ ทไวไลท์” ยังทำรายได้เปิดตัว ชนะภาพยนตร์มหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ตลอดกาล อย่าง The Lord of The Rings อีกด้วย ซึ่งจากรายได้ดังกล่าว ทำให้ Twilight กลายเป็นภาพยนตร์ประจำเดือนพฤศจิกายน ที่เปิดตัวสูงเป็นอันดับ 4 ตลอดกาล ตามหลังแฮรี่ พ็อตเตอร์ทั้งสามภาค และเป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวสูงสุดเป็นอันดับที่ 4 ประจำปี 2008 ตามหลังภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight, Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull และ Iron Man

จากความสำเร็จที่ได้รับ ก็ทำให้ Summit สตูดิโอผู้สร้าง ประกาศการสร้างภาคสอง (New Moon) โดยทันที พร้อมกับได้ซื้อลิขสิทธ์อีกสองเล่มที่เหลือไว้เรียบร้อยแล้ว โดยทีมงานทุกคนต่างก็เซ็นสัญญาที่จะกลับมาพบกับผู้ชมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงนำทั้งสอง รวมถึงผู้กำกับภาพยนตร์ แคทธาลีน ฮาร์ดวิค ที่ชื่อของเธอก็ได้ถูกจารึกเอาไว้ว่า เป็นผู้กำกับหญิงที่มีภาพยนตร์เปิดตัวรายได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวกัน Twilight ก็กลายเป็นหนังแวมไพร์ที่เปิดตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยทำรายได้แซงหน้าเจ้าของตำแหน่งเดิมอย่าง Van Helsing ไปเกือบถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ






naru-hara
[ 10-12-2008 - 12:51:02 ]









อินารุว่าจะสร้างบอดอยู่หว้ามีคนสร้างแล้วอ่ะ
MONK3Y_
[ 10-12-2008 - 16:55:34 ]







MONK3Y_
[ 10-12-2008 - 16:56:08 ]







MONK3Y_
[ 10-12-2008 - 16:56:50 ]







MONK3Y_
[ 10-12-2008 - 16:57:25 ]







MONK3Y_
[ 10-12-2008 - 16:58:00 ]







MONK3Y_
[ 10-12-2008 - 16:58:30 ]







MONK3Y_
[ 10-12-2008 - 16:59:01 ]







MONK3Y_
[ 10-12-2008 - 16:59:28 ]







ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้

เว็บนี้มีการใช้งาน cookie
ยอมรับ
ไม่ยอมรับ