หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:43:04 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() หวัดดีกิ้ก ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:44:21 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ก๊วยเจ๋ง
ก๊วยเจ๋งเป็นตัวเอกจากมังกรหยกภาคแรก มีลักษณะ คิ้วดกหนาตาโต ทรวงอกหนาเอวยืดตรง แม้มีสติปัญญาไม่สูงนัก แต่มีวิทยายุทธล้ำเลิศยากจะหาผู้ใดเทียบเปรียบติด ครั้งกระโน้นหลังจากที่ก๊วยเจ๋ง อึ้งย้งเข้าร่วมการชุมนุมวิจารณ์กระบี่ บนยอดเขาฮั้วซัว มารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือเป็นเจ้าภาพจัดพิธิวิวาห์ให้แก่ทั้งสอง จากนั้นซ่อนตัวเร้นกายที่เกาะดอกท้อ แต่อึ้งเอี๊ยะซื้อมีนิสัยไม่ชมชอบความครึกครื้นวุ่นวาย จึงได้ออกจากเกาะไป หลังจากผ่านไปแรมปี ก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้ง ได้ออกตามหาอึ้งเอี๊ยะซื้อ ตามหาอยู่หลายเดือนก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องกลับเกาะดอกท้อ ที่แท้เป็นเพราะว่าอึ้งย้งได้ตั้งครรภ์แล้ว ก๊วยเจ๋ง 1983วรยุทธ์ของก๊วยเจ๋ง ก๊วยเจ๋งเมื่อวัยเด็กได้ร่ำเรียนวิชาจาก เจ็ดประหลาดกังหนำ จึงมีวิชาฝีมือที่หลากหลาย ภายหลังได้รับการถ่ายทอดวิชาฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่าจาก ยาจกอุดร อั้งชิกกง และได้ใช้วิชานี้เป็นวิชาหลัก ยังมีวิชาสองมือขัดแย้งของจิวแป๊ะธง และยังได้เคล็ดวิชาในคัมภีร์เก้าอิมไปครบทุกส่วน ก๊วยเจ๋งได้ใช้เวลาอยู่ที่เกาะดอกท้อนานหลายปี ระหว่างนั้นได้ชำระใจฝึกปรือพลังฝีมือร่วมกับภรรยาจนถึงขั้นลึกล้ำสุดยอด หลั้งจากเวลาผ่านไปจนก๊วยพู้ ธิดาของพวกเขา อายุได้เก้าปี ก็ได้ออกจากเกาะดอกท้อเพื่อมาตามหาอึ้งเอี๊ยะซือต่อ และก็ได้มาพบกับเอี้ยก๊วย ก่อให้เกิดเรื่องราวในภาคที่สองขึ้น ก๊วยเจ๋ง 1999ในภาคสองนี้ ท่านกิมย้งได้ให้เอี้ยก้วยเป็นตัวเอกในการดำเนินเรื่อง จึงจำเป็นต้องลดทอนบทบาทของตัวก๊วยเจ๋งลงไป โดยกำหนดให้ก๊วยเจ๋งไปทำหน้าที่เฝ้ารักษาปกป้องเมืองเซียงเอี้ยงจากการบุกจู่โจมของทัพมองโกล ก๊วยเจ๋งจึงมีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมกับยุทธภพน้อย ซึ่งถือว่าเป็นวิธีจัดการกับตัวละครที่ชาญฉลาดของท่านกิมย้ง แม้จะให้ก๊วยเจ๋งมีบทบาทน้อยลง แต่ความยิ่งใหญ่ของตัวละครในความรู้สึกของผู้คนกลับสูงส่งขึ้น จากหนุ่มผู้มากฝีมือในภาคแรก มาถึงภาคนี้ได้พัฒนาเป็นวีรบุรุษผู้กล้าแห่งยุค สิ่งที่ทำให้ก๊วยเจ๋งได้รับการยอมรับจากผู้คน มิใช่เพียงแค่มีวรยุทธที่สุงล้ำเท่านั้น หากแต่เป็นเพราะ ก๊วยเจ็งมีจิตใจกว้างขวาง องอาจ มีความกล้าหาญซื่อตรง รักชาติบ้านเมืองยิ่งชีพ ภาคนี้ได้แสดงให้ผู้อ่านได้เห็นถือชีวิตของตัวละครหลักจากภาคแรก ว่าเมื่อผ่านพ้นภาคแรกมา ชีวิตต่อจากนั้นดำเนินต่อไปอย่างไร ซึ่งท่านกิมย้งก็ไม่ทำให้ผู้อ่านผิดหวัง ก๊วยเจ๋งในภาคนี้มีการพัฒนาขึ้นตามวัย แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เดิม ในด้านความรักกับอึ้งย้งผู้เป็นภรรยา แม้ความรู้สึกวาบหวามแบบในวัยหนุ่มจะลดลง แต่ความผูกพันลึกซึ้งกลับเพิ่มพูนขึ้น เป็นอีกคู่แท้ที่น่ายกย่อง ในด้านฐานะทางสังคมก็ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วทั้งยุทธจักร ยกย่องให้เป็นวีรบุรุษแห่งยุค ก๊วยเจ๋ง 2006ถึงแม้ในภาคนี้ก๊วยเจ๋งจะมีบทบาทน้อยลง แต่ทุกครั้งที่ออกมามักได้แสดงออกถึงความสามารถสุดหยั่งคาด ตั้งแต่เมื่อประทะกับอ้าวเอี้ยงฮง ก็แสดงให้เห็นว่าบัดนี้ฝีมือของเขาได้พัตนาขึ้นมาเทียมเท่าแล้ว จากนั้นตอนที่พาเอี้ยก้วยไปส่งที่สำนักชวนจินก่าก็ได้แสดงพลังฝีมือทำลายค่ายกลใหญ่ฟ้าดาวเหนือ และปราบราชบุตรฮั่วตูด้วยกระบวนท่าเดียว เมื่อครั้งที่บุกไปรับตัวสองพี่น้องตระกูลบู๊ที่ค่ายมองโกล หากมิใช้เพราะเอี้ยก้วยวางอุบายแกล้งร้องให้ช่วย ด้วยความสามารถของก๊วยเจ๋ง ย่อมสามารถฝ่ากองทับและยอดฝีมือทั้ง 5 ออกมาได้ด้วยลำพัง |
K!K_NuuM!n>< | [ 18-03-2007 - 20:45:12 ] |
---|---|
![]() | ![]() พระเอกตอนนนี้หล่อกว่าพระเอกตอนแก่อีก |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:45:49 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ก้วยเจ๋ง ![]() |
K!K_NuuM!n>< | [ 18-03-2007 - 20:46:59 ] |
---|---|
![]() | ![]() แล้วมาดูตอนนี้ พระเอกดูไม่ได้เลย - - |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:47:24 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ขงเบ้งหญิง อึ้งย้ง
อึ้งย้งเป็นธิดาแห่งเจ้าเกาะดอกท้อ อึ้งเอี๊ยะซือ นางมีความเพียบพร้อมไปด้วยรูปโฉมที่งดงาม สติปัญญาที่ล้ำเลิศ พลังฝีมือที่สูงเยี่ยม และยังได้เป็นประมุขของพรรคกระยาจก ยิ่งเสริมให้มีฐานะในยุทธจักรสูงส่งขึ้นไปอีก มาจนถึงภาคสองนี้ บารมีของนางยิ่งกว้างใหญ่ไพศาลขึ้น นอกจากได้เป็นศรีภรรยาของก๊วยเจ๋งวีรบุรุษแห่งยุคแล้ว ตัวอึ้งย้งเองก็ใช้สติปัญญา ประกอบคุณงามความดี จนได้รับการยกย่องเป็นวีรสตรีจากผู้คนทั่วยุทจักร และด้วยสติปัญญาที่สูงส่งของนางนี้ ถึงกับได้รับการยกย่องให้ฉายาเป็นขงเบ้งหญิงเลยทีเดียว อึ้งย้งยังคงมีบทบาทอยู่ไม่น้อยในมังกรหยกภาคสองนี้ แม้ว่าท่านกิมย้งจะได้ลดทอนบทบาทของนางลงโดยการให้นางตั้งครรภ์ทำให้ไม่สามารถแสดงความสามารถทางด้านพลังฝีมือได้มากนัก แต่นางยังคงใช้สติปัญญาแก้ไขสถานการณ์ วางแผนแยบยลต่างๆนาๆ ช่วยเหลือธิดาและพวกพ้องให้รอดพ้นจากอันตรายหลายครั้งหลายครา อึ้งย้ง ปี 1983 อึ้งย้ง ปี 1995 อึ้งย้ง ปี 1999 บทบาทของอึ้งย้งในภาคนี้ บางครั้งอาจจะดูเป็นแง่ลบไปบ้าง ส่วนหนึ่งมาจากการที่นางไม่เห็นด้วยที่เอี้ยก้วยจะแต่งอาจารย์เป็นภรรยา แต่หากจะบอกว่านี่เป็นความยึดติดต่อประเพณีที่เกินไปของอึงย้งก็มิใช่ เพราะในยุคนั้นไม่ว่าใครก็ถือเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และแปลกพิศดารเกินกว่าจะรับได้ นอกจากเรื่องแต่งงานแล้ว นางยังคงมีอคติต่อเอี้ยก้วยอยู่บ้าง เนื่องจากบิดาของเอี้ยก้วยนั้นก่อกรรมไว้มาก บวกกับพฤติกรรมของเอี้ยก้วยเองก็แปลกประหลาดพิศดาร แปรเปลี่ยนไม่หยุดยั้ง แม้แต่ตัวเอี้ยก้วยเองก็ยังไม่เข้าใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะบันดาลให้ผู้คนที่พบเห็นตีความพฤติกรรมเหล่านั้นไปในทางลบได้ อึ้งย้งแม้จะฉลาดทันคน แต่กับเอี้ยก้วยแล้วตั้งแต่เด็กจนโต มีหลายครั้งนี้นางไม่อาจเดาใจได้ออก วิทยายุทธ ล้ำเลิศพลิกเพลงไม่จบสิ้น ในด้านวรยุทธของอึ้งย้งนั้น ได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้เป็นบิดา ซึ่งถือเป็นจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในยุคนั้น นางได้รับการถ่ายทอดทั้งด้านวรยุทธและด้านวิชาค่ายกลต่าง จากนั้นยังคงได้เรียนรู้วิชาไม้เท้าตีสุนัขจากยอดคนอย่างอั้งชิกกง และสุดท้ายยังมีวิชาจากคัมภีร์เก้าอิม ที่ได้ศึกษาฝึกปรือร่วมกับก๊วยเจ๋งผู้เป็นสามีอยู่ที่เกาะดอกท้ออยู่เป็นเวลานาน จนแตกฉานมีพลังยุทธสูงล้ำ ถึงแม้นางจะมีวรยุทธที่สูงส่งขึ้นกว่าในภาคที่แล้วมาก แต่นางก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสแสดงพลังฝีมือในด้านวรยุทธสักเท่าไหร่ เพราะเนื้อเรื่องในช่วงของเอี้ยก้วยนั้น นางอยู่ในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์พอดี ร่างกายจึงไม่พร้อมที่จะใช้พลังยุทธได้เต็มที่ ต้องรอจนหลังจากที่ครอดแล้วนางจึงได้มีโอกาสแสดงพลังฝีมืออย่างเต็มที่ในตอนที่พยายามจะชิงตัวธิดาน้อยจากมือของลี้มกโช้ว นางได้แสดงพลังฝีมือจนลี้มกโช้วต้องยอมรับความพ่ายแพ้ทั้งด้านวรยุทธและด้านสติปัญญา ทายาททั้งสาม อึ้งย้งมีบุตรธิดารวมสามคน ที่แล้วมานางมีนิสัยเจ้าเล่ห์แสนกล ไม่ยอมอยู่สงบนิ่งแม้ชั่วครู่ยาม พอเริ่มตั้งครรภ์รู้สึกว่าทุกประการล้วนไม่สะดวก สร้างความหงุดหงิดใจยิ่ง เมื่อสืบสาวถึงต้นเหตุ ย่อมตำหนิว่าก๊วยเจ๋งไม่ดี คนที่อุ้มครรภ์ความจริงมัอารมณ์ฉุนเฉียวได้โดยง่าย นางแม้มีความรักผูกพันธ์กับก๊วยเจ๋ง ยามนี้กลับนึกหาเหตุทะเลาะวิวาทกับสามี ก๊วยเจ๋งล่วงรู้อารมณ์และจิตใจของภรรยา ทุกครั้งที่นางหาเรื่องโดยไร้เหตุผล มักแย้มยิ้มโดยไม่ถือสา หากแม้นอึ้งย้งโกรธเคืองขึ้นมา ก็จะปลอบโยนอย่างนุ่มนวล หยอกเย้าจนอึ้งย้งหัวร่อออกค่อยเลิกรา |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:47:49 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() กิ้กจำมินได้ไหมอ่ะ ![]() |
K!K_NuuM!n>< | [ 18-03-2007 - 20:49:28 ] |
---|---|
![]() | จำได้จิ
![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:49:43 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ![]() ยอดยุทธหญิงในนิยายกิมย้งมีอยู่ไม่น้อย ในมังกรหยกภาคนี้ก็มีทั้ง อึ้งย้ง ทั้งลี้มกโช้ว ที่มีพลังฝีมือยากจะหาใครทาบติดและยังถือเป็นสาวงามที่หาได้ยากอีกด้วย เซียวเหล่งนึ่งเองก็เป็นจอมยุทธหญิงอีกคนที่นอกจากเรื่องความงามที่ไม่มีใครเทียบเปรียบติดแล้ว ในด้านวรยุทธของนางก็สูงส่งไม่แพ้หญิงใด ยิ่งถ้าเทียบกับอายุรุ่นเดียวกับนางแล้วคงจาหาหญิงใดมีวรยุทธ์สูงส่งเท่านางอีกไม่ได้ เซียวเหล่งนึ่งอาศัยอยู่ในสุสานโบราณฝึกวิชาของลิ้มเฉียวเอ็ง ซึ่งลิ้มเฉียวเอ็งถือเป็นยอดหญิงที่มีวรยุทธใกล้เคียงกับปรมจารย์เฮ้งเต้งเอี้ยงเลยทีเดียว จากการฝึกฝนตั้งแต่เด็ก เพียงอายุสิบแปด วรยุทธของเซียวเหล่งนึ่งก็ใกล้เคียงกับ ฮักไต้ทง หนึ่งในเจ็ดนักพรตอวุโสของสำนักชวนจินก่าแล้ว และหลังจากที่ได้เอี้ยก้วยเข้าไปอยู่ด้วยในสุสานโบราณ วรยุทธของนางก็ยิ่งรุดหน้า นางได้ฝึกวิชาของชวนจินก่าเพราะเอี้ยก้วยได้เคยท่องเคล็ดวิชานี้ไว้ ตามด้วยวิชาในเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ ภายหลังยังได้ฝึกวิชาในคัมภีร์เก้าอิม และเมื่อออกสู่ยุทธภพ ก็ได้มีโอกาสได้ใช้เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ร่วมกับเอี้ยก้วยเพื่อปราบกิมลุ้น เพียงวรยุทธของนาง ณ เวลานี้ก็นับว่าสูงส่งมากมายอยู่แล้ว แต่ที่ทำให้วรยุทธของเซียวเหล่งนึ่งก้าวไปสู่ความสุดยอด นั่นคือการได้เรียนรู้วิชาสองมือขัดแย้งของเฒ่าทารกจิวแป๊ะธง วิชานี้ทำให้สองมือ ซ้ายขวา แยกเป็นเอกเทศ สามารใช้วิชาที่แตกต่างกันได้เหมือนกับเป็นคนละคน เป็นความประจวบเหมาะที่วิชานี้สามารถนำมาใช้ได้อย่างลงตัวกับเพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ นางใช้มือข้างหนึ่งเป็นวิชาของสำนักชวนจินก่า อีกข้างเป็นเพลงกระบี่สุรางคนางค์ ทำให้นางสามารถใช้เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ ได้โดยไม่ต้องมีเอี้ยก้วยอยู่ด้วย ความสำเร็จในวิชานี้ แม้แต่ลิ้มเชียวเองผู้คิดค้นวิชาก็มิอาจคาดคำนวนไปถึง อนุภาพของวิชากระบี่คู่นี้ได้แสดงออกครั้งแรกในตอนที่เซียวเหล่งนึ่งบุกสำนักชวนจินก่า ในขณะนั้นพวกมองโกลนำยอดฝีมือมากมายเข้ามาหวังยืดสำนักนี้ นางได้พุงเข้ามาขัดขวางในจังหวะที่เต็กเช็งต๊กกำลังจะสังหาร อี่จี้เพ้งที่ถูกมัดอยู่ นางเข้ามาห้ามเพราะตั้งใจว่าจะลงมือสังหารด้วยตัวเองเพื่อแก้แค้น ความน่าอัศจรรย์ของเพลงกระบี่คู่นี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักพรตสองคนพุ่งเข้าไปหวังจะขัดขวาง แต่ยังไม่ทันถึงตัวกลับได้รับความเจ็บปวดที่ข้อมือ และกระบี่ที่อยู่ที่เอวถูกช่วงชิงไป ฝีมือของเซียวเหล่งนึ่งครั้งนี้รวดเร็วยิ่ง ผู้อื่นไม่ทันเห็นชัดตาว่านางช่วงชิงกระบี่ใช้กระบวนท่าอย่างไร นักพรตทั้งสองก็รับบาดเจ็บ ทุกผู้คนล้วนถูกสะกดจนตะลึงลาน จากนั้นเซียวเหล่งนึ่งเพียงขยับสั่นพลิ้วปลายกระบี่เท่านั้น ข้อมือซ้าย ข้อมือขวา เท้าซ้าย เท้าขวา ของเต็กเช็งต๊กล้วนถูกกระบี่แทงใส่ สี่กระบี่ทิ่มแทงด้วยความรวดเร็วกว่าเดิม แม้แต่ยอดฝีมือเช่น เซียวเซียงจื่อและอีเคอซี ยังอดหันมามองหน้ากันด้วยความตระหนกมิได้ เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธ์นั้นจะต้องใช้โดยคู่ที่มีจิตสัมพันธ์กัน แต่ไม่ว่าคนสองคนจะมีกระแสจิตสัมพันธ์กันอย่างไรย่อมไม่เท่ากับคนๆเดียว ยามนี้เซียวเหล่งนึ่งสามารถใช้เพลงกระบี่นี้ด้วยตัวคนเดียวได้ แม้พลังที่ใช้ออกจะไม่เท่าสองคนผนึกกำลังกัน แต่ระดับความเร็วกลับรวดเร็วกว่าเดิมหลายเท่าตัว ซึ่งกิมย้งได้บรรยายถึงความรวดเร็วนี้ไว้หลายตอน ดังเช่นความตอนนี้ เห็นเสื้อขาวโชยพัดพลิ้ว ประกายเย็นเยียบแลบแปลบปลายกระบี่ทั้งคู่คล้ายงูเงินสองตัว พุ่งฉวัดเฉวียนไปรอบบริเวณ เสียงติงตังเคร้งครั้ง เสียงร้องโอดโอยดังติดต่อกัน เพียงชั่วขณะกระบี่ของเหล่านักพรตร่วงหล่นทั่วพื้นพสุธา ที่ข้อมือทุกผู้คนล้วนถูกแทงใส่หนึ่งกระบี่ หากแม้นกระบี่ของนางไม่แทงใส่ข้อมือศัตรู แต่มุ่งใส่ทรวงอก นักพรตเหล่านั้นคงทอดร่างเป็นศพตั้งแต่แรก เล่ม 3 หน้า 295 ในการมาครั้งนี้ของเซียวเหล่งนึ่ง มีเป้าหมายคือเตียจี่เก่งกับอี่จี้เพ้งเป็นสำคัญ เตียจี้เก่งสำนึกตัวดีว่าวรยุทธมิอาจเทียบนางได้ จึงได้แต่หลบอยู่หลัง อี่เคอซี เพราะทราบดีว่าอี่เคอซีเป็นจอมยุทธที่มีฝีมือสูงส่ง ย่อมจะปกป้องเขาจากคมกระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่งได้ แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เซียวเหล่งนึ่งขมวดคิ้วเรียวงามเล็กน้อย พลันเสือกกระบี่ในมือซ้ายออกแทงใส่อีเคอซีอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า อีเคอซีรีบยกแส้ขึ้นต้านทาน ได้ยินเสียงร้องดังอา เตียจี่เก่งที่อยู่ทางด้านหลังถูกกระบี่แทงใส่หัวใหล่ แม้แต่ชนชั้นยอดฝืมือเช่นเซียวเซียงจื่อ ก็ดูไม่ออกว่ากระบี่นี้แทงอย่างไร เล่ม 3 หน้า 297 ทั้งอี่เคอซี เซียวเซียงจื่อ และ นีมอชิง แต่ละคนต่างก็เป็นชนชันยอดฝีมือที่มีมีระดับวรยุทธสูงส่งยิ่ง จะเป็นรองก็เพียงยอดฝีมือที่เก่งกาจระดับกิมลุ้นหรือก๊วยเจ๋งเท่านั้น แต่ทั้งสามกลับไม่มีใครมองออกว่าเซียงเหล่งนึ่งแท่งกระบี่อ้อมไปทำร้ายเตียจี้เก่งที่อยู่ข้างหลังอี่เคอซีได้อย่างไร ยังมิทันจะหายตกใจ กระบี่ที่สองก็กำลังจะตามมา เซียวเหล่งนึ่งขยับท้าวเล็กน้อย ก้าวไปทางซ้ายสองก้าว อี่เคอซีหมุนตัวตามยังคงคุ้มครองเตียจี้เก่ง พลันได้ยินเสียงเคร้งที่ด้านหลัง อี่เคอซี่เหลียวหน้าไปด้วยความตระหนก ที่ไหล่ซ้ายของเตียจี่เก่งถูกกรีดเป็นทาง กระบี่ของเซียวเหล่งนึ่งนี้แทงถูกเตียจี้เก่งอย่างไร ผู้อื่นล้วนพิศวงสงสัย เพลงกระบี่ของนางรวดเร็วถึงขั้นนี้ มิเพียงไม่มีวี่แววเบาะแส กลับคล้ายสามารถแทงข้ามร่างผู้คนทำร้ายศัตรู เล่ม 3 หน้า 297 ด้านเตียจี้เก่งถูกทำร้ายถึงสองครั้งติดต่อกัน ได้แต่คิดว่าอาจเป็นเพราะอี่เคอซีมีฝีมือพื้นเพธรรมดาไม่สามารถปกป้องเขาได้ จึงเกร็งลมปราณพุ่งตัวไปหลบหลังเซียวเซียงจื่อแทน เซียวเหล่งนึ่งคล้ายมองไม่เห็น หมุนตัวคราหนึ่งมือซ้ายแทงกระบี่ใส่อีเคอซี มือขวาแทงใส่นีมอชิง แต่กลับได้ยิงเสียงเตียจี้เก่งร่ำร้องด้วยเสียงอันดัง ที่แท้ข้อมือถูกกระบี่แทงใส่อีก กระบวนท่านี้พิศดารยิ่งกว่า เซียวเหล่งนึ่งอยู่ห่างใกลจากเตียจี้เก่งชัดๆ ขณะจู่โจมใส่สองยอดฝีมือ ยังปลีกเวลาไปทำร้ายเตียจี้เก่งได้ ทั้งสามกระบี่ที่แทงใส่เตียจี้เก่งต่อหน้าต่อตายอดฝีมือทั้งสาม แสดงให้เห็นถืงความรวดเร็วสุดเปรียบปรานของเพลงกระบี่คู่นี้ จากนั้นทั้งสามร่วมมือกันขัดขวางไม่ให้เซียวเหล่งนึ่งทำร้ายเตียจี้เก่ง แต่ก็ทำได้เพียงตั้งรับอย่างเดียวสุดท้ายก็ไม่อาจรั้งนางไว้ได้ ไม่เพียงแต่สามยอดฝีมือนี้เท่านั้น แม้แต่ตัวกิมลุ้นเอง ซึ่งถือเป็นจอมยุทธที่มีระดับฝีมืออยู่ในระดับสูงสุดในเรื่องอีกคนหนึ่ง ก็ต้องลำบากหนักเมื่อต้องประทะกับเพลงประบี่ชุดนี้ เซียวเหล่งนึ่งฝ่าวงล้อมของสามจอมยุทธตามเตียจี้เก่งจนเข้ามาถึงด้านในได้พบกับราชครูกิมลุ้นและเกิดการต่อสู้ขึ้น เซียวเซียงจื่อและพวกก็ตามเข้ามา ทั้งสามเห็นกิมลุ้นสู้กับเซียวเหล่งนึ่งอย่างดุเดือด แม้จะรับมากกว่ารุก แต่ก็ยังพอรับมือเพลงกระบี่ที่รวดเร็วนี้ได้ลำพัง บังเกิดความเลื่อมใสและคิดว่าสมแล้วที่ได้รับยกย่องเป็นราชครูอันดับหนึ่ง หาทราบไม่ว่ากิมลุ้นกงซือแม้ใช้กระบวนท่าอย่างเกรี้ยวกราด ในใจกลับร่ำร้องคร่ำครวณ ท่ากระบี่เซียวเหล่งนึ่งจู่โจมทั้งหน้าหลัง จะรุกก็ใช่ที่ จะถอยก็ใช่ที่ หักล้างกันหลายสิบกระบวนท่า กิมลุ้นค่อยๆรั้งจักรทั้งห้ากลับมาทีละอันเพื่อมาคุ้มครองกายไม่กล้าซัดขว้างอีก ในที่สุดจากที่รับสลับรุกกลายเป็นตั้งรับอย่างเดียว ไม่ต่างกับพวกเซียวเซียงจื่อเมื่อครู่ อย่างไรก็ตามกิมย้งได้อธิบายไว้ว่า เพลงกระบี่ของเซียวเหล่งนึ่งแม้จะยอดเยี่ยม แต่กำลังภายในของนางยังเทียบยอดฝีมือเหล่านี้ไม่ได้ พลังฝีมือที่แท้จริงของนางก็ยังเทียบไม่ได้เช่นกัน แต่วิชานี้พอลงมือก็ใช้กระบวนท่ารวดเร็วดุจสายฟ้า ผู้คนไม่เคยพบเห็นมาก่อนในใจย่อมเกิดจิตขลาดเขลา ยิ่งราชครูกิมลุ้นเคยพ่านแพ้ให้กับเพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธ์นี้มาแล้ว ทำให้เมื่อเผชญกับเพลงกระบี่นี้อีก ในใจเพียงครุ่นคิดว่าจะป้องกันตัวอย่างไร เซียวเหล่งนึ่งสามารถเอาชนะได้เนื่องมาจากการข่มขวัญนั่นเอง ภายหลังเพลงกระบี่ชุดนี้ยังได้แสดงให้หลายคนได้ประจักษ์อีกครั้งเมื่อตอนที่เซียวเหล่งนึ่งพยายามชิงขวดยาจากกงซุนจี้ แม้ครั้งนี้อนุภาพของเพลงกระบี่จะไม่สามารถใช้ออกได้เต็มที่ เพราะหลังได้รับการบาดเจ็บบอบช้ำ ยังถูกพิษแทรกซึม อวัยวะภายใน กำลังภายในเสื่อมโทรมลง ท่ากระบี่จึงอ่อนแรงลงด้วย แต่กระนั้นก็เพียงพอที่ทำให้ผู้พบเห็นต่างเลื่อมใส บู๊ซำทง จูจื้อลิ้วและพวกทราบแต่แรกว่าเซียวเหล่งนึ่งมีฝีมือสูงเยี่ยม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่คาดคิดว่าจะลึกล้ำพิศดารถึงเพียงนี้ นับว่าในชีวิตไม่เคยพบพานมาก่อน วันนี้พบเห็นกับตาล้วนนับถือเลื่อมใส ส่วนสองเฮียหมวยตระกูลเยลู่ สองพี่น้องตระกูลบู๊ เที่ยเอ็ง เล็กบ่อซัง ที่เป็นชนชั้นผู้เยาว์ ยิ่งชมดูจนลายตาละลาน เห็นเซียวเหล่งนึ่งมีอายุไล่เลี้ยกับพวกตน ความสูงส่งของพลังฝีมือกลับไม่อาจคาดคิดคำนวณ ดังนั้นนับถือเลื่อมใสจนหมดหัวใจ เห็นนางถือขวดเคลือบเดินมาตามแท่งหิน ราวกับเทพธิดาเหินลงจากฟ้า ล้วนโห่ร้องชมเชิญออกมา |
Ple***CC***SHK | [ 18-03-2007 - 20:50:22 ] |
---|---|
![]() | มินมีเมลป่าวจ๊ะ ตอบหน่อยสิ |
ไข่เน่า | [ 18-03-2007 - 20:51:14 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() มาแว้ว ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:51:59 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ![]() ว่าด้วยเรื่อง ความเจ้าชู้ กับ การยึดมั่นในรักเดียว เป็นบุคลิกของคนที่ตรงข้ามกัน แต่ความตรงข้ามนี้ กิมย้งกลับสามารถนำมาอยู่ในตัวละครตัวเดียวกันได้ ซึ่งนั่นก็คือเอี้ยก้วยนั่นเอง พูดถึงเอี้ยก้วยแล้วหลายๆคนจะเทิดทูนในความรักที่มีต่อเซียวเหล่งนึ่งอย่างมั่นคงไมแปรผัน แม้จะผ่านพ้นเวลาไปสิบหกปี แต่รักที่มีก็ยังมั่นคงไม่จืดจาง แต่ในนิสัยจริงๆของเอี้ยก้วยแล้วแฝงความเจ้าชู้กรุ่มกริ่มอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเนื่องจากเอี้ยก้วยเป็นชายหนุ่มที่มีคุณสมบัติครบทุกอย่างที่ทำให้สตรีหลงใหล มีหน้าตาอันหล่อเหล่าคารมคมคาย รู้จักพูดจาพาที ช่างเจรจา นิยมชมชอบในการประทะคารมกันสาวงาม ด้านวรยุทธเมื่อเทียบจากชาวยุทธอายุรุ่นเดียวกันก็หาเป็นสองรองใครไม่ มีคุณธรรมน้ำมิตรชวยเหลือสตรีงามที่ไม่เคยรู้จักอย่างเต็มที่ สร้างบุญคุณไปทั่ว เมื่อมีคุณสมบัติเพียบพร้อมขนาดนี้ ก็ไม่น่าแปลกที่จะมีสาวงามมาหลงรักอยู่มากมาย ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะฝากความคะนึงหาไปทั่ว ความเจ้าชู้ของเอี้ยก้วยนี้ เผยให้เห็นตั้งแต่เริ่มเข้าวัยหนุ่ม เมื่อวัยเยาว์เอี้ยก้วยเติบโตมาในสุสานโบราณ หญิงเดียวที่ได้พอเจอคือเซียวเล่งนึ่ง จวบจนอายุสิบแปดมีโอกาสได้ออกมาข้างนอก พานพบสาวคนแรกก็ออกลายเจ้าชู้เลยทีเดียว คนแรกนั้นคืออั่งเลงป้อ ศิษของลี้มกโช้ว เมื่อครานั้นอั้งเล่งปอจะลอบเข้าสุสานโบราณ บังเอิญเจอเอี้ยก้วยที่แกล้งทำเป็นคนซื่อบื้อโง่งมไม่รู้ภาษา จึงหลงกลถูกเอี้ยก้วยแอบล่วงเกินโดยไม่รู้ตัว ตามความตอนนี้ เอี้ยก้วยกล่าวว่า "เมื่อหลายปีก่อนข้าพเจ้าไปใกล้สุสานพบผีชุดขาวนางหนึ่ง จึงวิ่งหนีหกล้มหัวแตก รอยแผลเป็นยังอยู่ท่านดูสิ" กล่าวพลางยื่นหน้าไปให้อั้งเล่งปอลูบคลำดู ระหว่างทางเอี้ยก้วยถูกนางโอบกอด รู้สึกว่านางมีลมหายใจหอมกรุ่น พอแอบอิงชิดใกล้ก็สร้างความปรอดโปร่งสบายยิ่ง ครานี้จึงฉวยโอกาสยื่นศีรษะถึงข้างใบหน้านาง |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:52:49 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() จ้า...พี่เปิ้ล..ให้ไปแบ้วนิอยู่หน้าหลังอะจ้ะ...แต่มินไม่ค่อยได้ออนอะจ้ะ |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:53:40 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() พี่เปิ้ลเห็นยังอะคะ ![]() |
ไข่เน่า | [ 18-03-2007 - 20:54:38 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() Quote : หมินหมิ่นหยู พี่เปิ้ลเห็นยังอะคะ
![]() พี่มินมีส่งจูบคิดไรป่ะเนี้ย ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:55:26 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() เอ้า..ชะงั้นอะเบส ![]() |
K!K_NuuM!n>< | [ 18-03-2007 - 20:56:25 ] |
---|---|
![]() | เซียวเล้งนึง ทำไมไม่ยอมแก่เลยล่ะ ดูแร้วงง |
ไข่เน่า | [ 18-03-2007 - 20:56:47 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() Quote : หมินหมิ่นหยู เอ้า..ชะงั้นอะเบส
![]() อ่ะจ้าๆเชื่อแล้วจ้า |
Ple***CC***SHK | [ 18-03-2007 - 20:56:51 ] |
---|---|
![]() | ![]() ตรงไหนเหรอมินพี่มะเห็นอ่ะ |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:57:00 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() วรยุทธของเอี้ยก้วย
พูดถึงตัวละครที่เป็นตัวเอกของเรื่อง ย่อมต้องมีวิทยยุทธสูงส่งเป็นธรรมดา เอี้ยก้วยก็เป็นอีกตัวละครที่เป็นเช่นนั้น วรยุทธของเอี้ยก้วยนั้นมีมากหลาย แต่ละวิชาล้วนมีที่มาแตกต่างกัน บ้างได้มาง่ายบ้างได้มายาก บ้างได้โดยบังเอิญ บ้างได้เพราะความพยายาม ในส่วนนี้จะมาไร่เรียงดูว่าเอี้ยก้วยได้วิชาจากที่ใดบ้าง และแต่ละวิชามีรายละเอียดอย่างไร ลมปราณคางคง เอี้ยก้วยพอจะมีพื้นฐานอยู่บ้างจากมารดา แต่คงจะนับเป็นวรยุทธจริงจังไม่ได้ วิชาแรกที่เอี้ยก้วยได้เรียนรู้จริงๆคือวิชา ลมปราณคางคง ของ อาวเอี้ยงฮง ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดวิชาฝีมือในแผ่นดิน เอี้ยก้วยได้รับถ่ายทอดตั้งแต่เด็ก และก็ได้นำมาใช้ในหลายเหตุการ ภายหลังได้พบอาวเอี้ยงฮงอีกครั้งก็ได้รับการชี้แนะเพิ่มเติมถึงเคล็ดความพิสดาร พร้อมทั้งสอนวิชาเก้าอิมแบบย้อนกลับ ทำใหได้วิชาบังคับชีพจรย้อนกลับไปด้วย วิชาสำนักสุสานโบราณ ต่อมาพอได้เข้าไปในสุสานโบราณก็ได้เซียวเหล่งนึ่งเป็นอาจารย์ สอนวิชากำลังภายใน วิชาตัวเบา เพลงหมัดฝ่ามือ อาวุธและอาวุธลับของสำนักสุสานโบราณ เอี้ยก้วยสำเร็จวิชาทั้งหมดนี้ตอนอายุสิบหกปี วิชาเหล่านี้บัญญัติโดยสตรี จึงมีความคล่องแคล่วอ่อนช้อยเกินพอ แต่ขาดความหนักแน่นแกร่งกร้าว แต่เอี้ยก้วยมีนิสัยคึกคะนองชอบกระโดดโลดเต้น วิชาฝีมือแนวนี้กลับสอดคล้องกับนิสัยใจคอของเขา เพลงกระบี่สำนักชวนจินก่า หลังจากนั้นเพื่อต้องการฝึกเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ ซึ่งจำเป็นต้องเรียนรู้วิชาของสำนักชวนจินก่าก่อน เดิมทีเซียวเหล่งนึ่งศึกษาวิชานี้จากเครื่องหมายอักษรในห้องศิลาที่ เฮ้งเต้งเอี้ยงจารึกไว้ในตอนฝึกฝนวิชา แต่ก็ยังคงไม่เข้าใจ ดีทีเอี้ยก้วยเคยได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาของชวนจินก่าจากเตียจี้เก่ง แต่เตียจี้เก่งถ่ายทอดให้แต่เคล็ดวิชา ไม่ถ่ายทอดวิธีฝึกปรือให้ เอี้ยก้วยเพียงท่องจำขึ้นใจ แต่ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้ ยามนี้ท่องให้เซียวเหล่งนึ่งฟัง นางจึงทำการค้นคว้า บ่งชี้เคล็ดความสำคัญ และใช้เวลาหลายเดือน เรียนรู้วิชาฝีมือที่เฮ้งเต้งเอี้ยงจารึกทิ้งไว้ได้ เคล็ดวิชาสุรางคนางค์ ( วิชาดรุณี สาวหยก ) เคล็ดวิชาสุรางคนางค์ ลิ้มเฉียวเอ็งบัญญัติขึ้นมาเพื่อทำลายล้างวิชาฝีมือสำนักชวนจินก่า เพลงกระบี่สุรางคนางค์เป็นดาวข่มของเพลงกระบี่ชวนจินก่าอย่างแท้จริง ทุกกระบวนท่า ทุกย่างก้าว ไม่ว่าจะพลิกแพลงอย่างไร ก็ไม่อาจสลัดหลุดการครอบคลุมของเพลงกระบี่สุรางคนางค์ได้ เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งใช้เวลาหลายเดือนฝึกวิชาภายนอกสำเร็จ แต่วิชาภายในฝึกได้ยากเย็นกว่า ใช้อีกหลายเดือนถึงฝึกสำเร็จ วิชาจากคำภีร์เก้าอิม ( คัมภีร์นพยม ) ต่อมายังได้รู้วิชาจากคำภีร์เก้าอิม ซึ่งจารึกไว้บนเพดานห้องใต้ดิน ผู้จารึกคือเฮ้งเต้งเอี้ยง หลังจากลิ้มเฉียวเอ็งเสียชีวิต เฮ้งเต้งเอี้ยงลอบเข้าสุสานโบราณได้เห็นเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ ที่ลิ้มเฉียวเอ็งจารึกไว้ สร้างความตระหนกจนหน้าถอดสี จึงพาตัวเองเข้าสู่ส่วนลึกของภูเขา ใช้เวลา 3 ปี หาวิธีทำลาย แต่ก็ยังหาไม่ได้จึงล้มเลิกไป สิบกว่าปีให้หลัง หลังจากได้คัมภีร์เก้าอิมมา ลองเปิดผ่านตาดูเห็นว่ามีหนทางเอาชนะได้ จึงจารึกเคล็ดวิชาเก้าอิม บนเพดานห้องศิลาใต้ดิน พร้อมกับระบุวิธีทำลายเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ อย่างไรก็ตามวิชาเก้าอิมที่จารึกไว้นี้ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ คัดเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเอาชนะวิชาของลิ้มเฉียวเอ็ง เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งใช้เวลาปีเศษในการฝึกฝน วิชาไม้เท้าตีสุนัข อีกแขนงวิชาที่นับว่าเป็นวิชาสุดยอดพิศดารของยุทธภพ นั้นคือวิชา ไม้เท้าตีสุนัข ซึ่งเป็นวิชาที่จะถ่ายทอดให้กับเจ้าสำนักกระยาจกเท่านั้น แต่เอี้ยก้วยได้เรียรู้วิชานี้โดยบังเอิญ โดยเริ่มต้นจากได้เรียนรู้กระบวนท่าทั้ง 36 ท่า จากอั้งฉิกกงบนยอดเขาฮั้วซั่ว และได้รู้เคล็ดวิชาจากอึ้งย้งในตอนที่แอบฟังอึ้งย้งถ่ายทอดวิชาให้ลู่อู่ค่า ตอนนั้นอึ้งย้งทวนหลายครั้งเพื่อให้ลู่อู่คาจำได้ แต่เอี้ยก้วยมีสติปัญญาล้ำเลิศพอฟังถึงรอบที่ 3 ก็ จดจำได้หมดไม่มีตกหลนแม้ซักคำ เอี้ยก้วยจึงได้วิชานี้ครบทั้งกระบวนท่าและเคล็ดวิชา แต่จะอย่างไรวิชาที่สุดยอดนี้ยังมีรายละเอียกปลีกย่อยวิธีใช้ วิธีปรับเปลียนพลิกแพลงที่หลากหลาย จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำเพิ่มเติม ซึ่งเอี้ยก้วยก็ไปได้ในส่วนนี้อีกประมาณหกเจ็ดส่วนของทั้งหมดในตอนที่ไปช่วยอึ้งย้งจากการตามล่าของกิมลุ้น ด้วยมันสมองของเอี้ยก้วย ถ้าหากได้ฝึกซ้อมขบคิดต่อ ย่อมสามารถใช้วิชานี้ได้อย่างสมบูรณ์ เพลงกระบี่ขลุ่ยหยก และดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ ( ดรรชนีธรรม ) เมื่อครั้งหนีการตามล่าจากลี้มกโช้ว ได้พบกับ มารบูรพา อึ้งเอี๊ยซื้อ เอี้ยก้วยพูดจาเก่งและยังมีนิสัยหลายอย่างตรงกับอึ้งเอี๊ยซือ คุยกันถูกคอ จึงได้รับการถ่ายทอดดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ ( ดรรชนีเส่งคุน ) เพื่อไว้เอาชนะฝ่ามือเบ็ญจพิษของลี้มกโช้ว และเพลงกระบี้ที่ดัดแปลงจากขลุ่ยหยกอีกชุดไว้ทำลายแซ่ปัดของนาง วิชาฝีมือทั้งสองนี้ล้วนลึกล้ำพิศดาร คาดหวังความสำเร็จขั้นต้นต้องใช้เวลาหนึ่งปี หากคิดเอาชัยลี้มกโช้วต้องใช้เวลาสามปี กระบี้เหล็กนิลดำ เอี้ยก้วยไปหาพี่อินทรี และได้ฝึกฝนยอดวิชาจากยอดคนผู้ล่วงลับนาม ต๊กโกคิ้วป้าย โดยได้พี่อินทรีเป็นคู่ซ้อม จากนั้นพี่อินทรีพาไปฝึกซ้อมกับการจู่โจมกับน้ป่าในลำธาร สลับกันการกินดีงูที่พี่อินทรีหามาให้ จนสำเร็จ ล่วงรู้ว่าเพลงกระบี่ของกระบี่หนักสิ้งสุดแต่เพียงนี้ ภายหน้ามีกำลังเพิ่มพูนกระบี้ที่ใช้จะมีน้ำหนักเบาลงทุกที นั่นเพราะพลังการฝึกปรือเพิ่มพูนเป็นล้ำลึกขึ้นอยู้กับการเพาะสร้างของตัวเอง ด้านเพลงกระบี่กลับบรรลุถึงขั้นสุดยอดแล้ว วิชากระบี่ไม้ หลังจากรู้ว่าต้องรอเซียวเหล่งนึ่งเป็นเวลานาน จึงกลับไปหาพี่อินทรีใช้เวลาไปกับการฝึกซ้อมวิชากระบี่ แต่ฝึกอยู่หลายเดือนรู้สึกไม่คืบหน้า ภายหลังพี่อินทรีพาลงใต้ไปที่ชายฝั่งทะเลได้ฝึกซ้อม พุ่งกระบี่ไม้ฟาดฟันกลางคลื่นพิโรธ ในช่วงเวลาน้ำทะเลหนุนสูงทุกเที่ยงวันเที่ยงคืน ฝึกซ้อมโดยไม่ว่างเว้น เสียงกระบี่ยิ่งฟาดฟันยิงดังสะเทือนเลือนลั่น จากนั้นค่อยๆเบาลง และกลับจากเบาเป็นดัง จากดังเป็นเบา ย้อนทวนรวมเจ็ดครั้ง สุดท้ายจากเบาเป็นเบา ดังเป็นดัง ฝึกปรืออยู่ชายฝั่งทะเลนี้ถึง 6 ปี เพลงฝ่ามือกำสลดวิญญาณสลาย และสุดท้าย ในช่วงเวลาที่เอี้ยก้วยเฝ้ารอเซียวเหล่งนึ่งนั้น ด้วยความสามารถสติปัญญาอันล้ำเลิศ มีความรู้จากวิชาที่ได้เรียนมาหลากหลาย รวมกับประสบการณ์การต่อสู่อย่างโชกโชน ได้คิดค้นบัญญัติยอดวิชาขึ้นเอง โดยให้นามว่า วิชา ฝ่ามือกำสลดวิญญาณสลาย ซึ่งมีด้วยกันหลายท่า บ้างก็เป็นวิชาที่ดัดแปลงมาจากวิชาที่เคยได้รับการถ่ายทอดมา บ้างก็เป็นท่าที่คิดขึ้นเองเป็นเอกเทศไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิชาใด รวมแล้วได้ 17 ท่า ถือเป็นอีกหนึ่งยอดวิชาในยุทธภพ |
เว็บนี้มีการใช้งาน cookie | ไม่ยอมรับ |