ไข่เน่า | [ 18-03-2007 - 20:57:54 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() Quote : K!K_NuuM!n>< เซียวเล้งนึง ทำไมไม่ยอมแก่เลยล่ะ ดูแร้วงง
ถูกต้องน้าคร้าบพูดดีมีเหตุผลมาก สงสัยมั้กมัก ว่าแต่นี้ครายง่ะคับ ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:58:30 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ในหน้า31อะจ้ะอีกทีๆminmew@hotmail.com |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:59:13 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() คงเพราะนอนเตียวหยกละมั้งนะ |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 20:59:34 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() เตียงหยกๆ พิมผิด |
ไข่เน่า | [ 18-03-2007 - 21:00:22 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() Quote : หมินหมิ่นหยู คงเพราะนอนเตียวหยกละมั้งนะ
มันคงเป็นพรมลิขิตล่ะมั้ง ที่เขียนให้เป็นอย่างน้าน ![]() |
K!K_NuuM!n>< | [ 18-03-2007 - 21:00:30 ] |
---|---|
![]() | ![]() เค้าชื่อ กิ๊ก อ่านะ สงสัยมักมาก |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:00:40 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() [img]ระดับวรยุทธของ เอี้ยก้วย[/img]
ระดับวรยุทธของเอี้ยก้วยนั้นก้าวสู่ชั้นแนวหน้าตั้งแต่สำเร็จวิชากระบี่หนักของต๊กโกวคิ้วป้าย สิ่งที่ยืนยันถึงพลังฝีมือของเอี้ยก้วย นอกจากตอนที่สู้กับกิมลุ้นที่สำนักชวนจินก่าแล้ว ฝีมือของเอี้ยก้วยได้แสดงออกอย่างชัดเจนอีกครั้งเมือประทะกับ ฮิ้วโชยยิ้ม (หลวงจีนชื้ออึง) ครานั้น ฮิ้วโชยยิ้มเกิดคลุ้มคลั่งทำร้ายอิดเต็งไต้ซื้อ ทางด้านอิดเต็งไต้ซือความจริงพลังยุทธไม่ได้เป็นรอง ออกจะเหนือกว่าอยู่ขั้นหนึ่งด้วยซ้ำ แต่ท่านไม่ยอมตอบโตกลับ จึงถูกฮิ้วโชยยิ้มซัดฝ่ามือใส่อย่างต่อเนื่อง เอี้ยก้วยซึ่งขณะนั้นปลอมตัวเป็นชาวไร่ยืนดูอยู่ เกิดทดดูไม่ไหว จึงยื่นมือเข้าขัดขวาง และเกิดการต่อสู้กันขึ้น ถ้าว่ากันตามเนื้อเรื่องฉากนี้อาจไม่มีส่วนสำคัญกับเนื้อเรื่องมากนัก ดูเหมือนกับว่าท่านกิมย้งตั้งใจใส่ฉากต่อสู้นี้มา เพื่อแสดงให้ผู้อ่านได้ทราบถึงระดับฝีมือของเอี้ยก้วยว่ามีระดับใกล้เคียวกับยอดคนในอดีตมาก โดยได้อธิบายไว้ตามนี้ เพลงกระบี่ชุดนี้เป็นไม้ตายของต๊กโกวคิ้วป้าย มาตรแม้นผ่านกาลเวลานานปี ไม่ได้รับการถ่ายทอดจากผู้อาวุโสท่านนี้โดยตรง แต่เอี้ยก้วยฝึกท่ากระบี่กลางกระแสน้ำป่า รับประทานดีงูเพิ่มพลัง ได้รับการช่วยเหลือจากอินทรีวิเศษ เพลงกระบี่ที่เอี้ยก้วยฝึกปรือ มีส่วนคล้ายคลึงกับกระบี่อสูร ซึ่งครั้งกระโน้นพิชิตโดยไร้ผู้ต่อต้านยิ่ง เล่ม 3 หน้า 531 อิดเต็งไต้ซือยิ่งชมดูยิ่งตื่นใจ เห็นเอี้ยก้วยเป็นเด็กหนุ่มอายุยี่สิบเศษกลับสู้เสมอกับหัวหน้าพรรคมือเหล็กฮิ้วโชยยิ้ม ด้วยภูมิรู้ของท่านกลับมองไม่ออกว่าเป็นวิชาฝีมือสำนักใด พอเหลือบไปมองที่เซียวเหล่งนึ่งที่ยืนอุ้มทารกอยู่ข้างๆ ก็ครุ่นคิด หญิงสาวนางนี้ท่าทางสูงสง่ากว่าชาวบ้านทัวไป ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือดก็หาได้แตกตื่นลนลานไม่ แสดงว่านางก็มิใช่ชนชั้นธรรมดา เช่นกัน ในที่สุดเอี้ยก้วยก็สามารถชนะฮิ้วโชยยิ้มได้ ตามความตอนนี้ ยามนี้หนึ่งกระบี่สองฝ่ามือยิ่งโรมรันยิ่งดุเดือด เอี้ยก้วยมีเปรียบในเชิงอาวุธ ส่วนหลวงจีนชื้ออึงมีแขนมากกว่าข้างหนึ่ง จึงหักกลบลบล้างกัน ทั้งสองสู้กันไม่เลิกรา หักล้างกันร้อยกว่ากระบวนท่า รู้สึกว่าพลังกระบี่ของอีกฝ่ายเพิ่มพูนขึ้นไม่หยุดยั้ง หลวงจีนชื้ออึงมีอายุสูงวัย เริ่มไม่อาจต้านทานรับได้ เล่ม 3 หน้า 532 นับเฉพาะเวลานี้เอี้ยก้วยก็มีพลังฝีมือที่สูงส่งอยู่แล้ว ต่อมาในช่วงที่รอคอยเซียวเหล่งนึ่งสิบหกปีนั้น เอี้ยก้วยได้มุมานะฝึกซ้อม ทำให้มีพลังฝีมือรุดหน้าอย่างใหญ่หลวง โดยเอี้ยก้วยเปิดตัวหลังผ่านสิบหกปีมา ก็ได้แสดงฝีมือหลายครั้งคราให้ผู้อ่านได้ตื่นใจ แต่การแสดงพลังฝีมือต่อผู้ที่มีระดับต่ำกว่ามาก จะนับเป็นอย่างไรได้ หากจะวัดระดับฝีมือ ย่อมต้องวัดจากยอดฝีมือชั้นแนวหน้าที่เหลืออยู่ โดยกิมย้งได้มีฉากที่แสดงให้ผู้อ่านได้ทราบว่า เวลานี้เอี้ยก้วยมีพลังยุทธเทียบเท่ากับพวก ก๊วยเจ๋ง อึ้งเอี๊ยะซื้อ อิตเต็งไต้ซื้อ และ จิวแป๊ะธง แล้ว ดังฉากต่อไปนี้ ฉากแรกคือเมื่อตนที่เอี้ยก้วยไปตามหาจิ้งจอกเก้าหาง และได้พบกับเอ็งโกว กับ อิอเต็งไต้ซื้อ เพื่อที่จะกดดันให้เอ็งโกวยอมออกมา เอี้ยก้วยได้กูร้องยาวนานใช้พลังเสียงบีบบังคับให้นางทนไม่ไหวต้องออกมาห้าม พลังที่ออกมาตามเสียงแสดงถึงกำลังภายในอันกล้าแกร่งของเอี้ยก้วย กิมย้งได้บรรยายไว้แบบนี้ เอี้ยก้วยเปร่งเสียงกู่ร้องดังยาวนาน ดำเนินเป็นเวลาชั่วน้ำเดือด มิเพียงไม่มีวี่แววอ่อนโทรมขาดหาย ตรงกันข้าม พลังเสียงยิ่งมายิ่งกล้าแข็ง อิดเต็งไต้ซื้อรับฟังจนลอบนับถือเลื่อมใส แม้รู้สึกว่าเสียงกูของเอี้ยก้วยออกจะรุนแรงไป มิใช่พลังธรรมอันเที่ยงแท้ แต่ท่านเมื่อตอนอยู่ในวัยฉกรรจ์ ยังไม่มีพลังลมปราณสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ยามนี้อายุสูงวัยเรี่ยวแรงเสื่อมโทรม ยิ่งไม่อาจเทียบเปรียบติดได้ อิตเต็งไต้ซือต้องครุ่นคิดขึ้น หลายแซ่เอี้ยผู้นี้มีกำลังภายในกล้าแข็งแกร่งกร้าว สุดที่ยอดฝีมือใดจะเทียบเทียมได้ ไม่ทราบเอี้ยก้วยฝึกปรือได้อย่างไร เล่ม 4 หน้า 236 ฉากที่สองคือตอนที่ประลองกับจิวแป๊ะธง เอี้ยก้วยรับอาสาจะพาจิวแป๊ะธงไปหาเอ็งโกว จึงเดินทางมาหาและได้ประลองฝีมือกัน ทำการประลองอยู่หลายกระบวนท่า ในที่สุดใช้ออกด้วยฝ่ามือกำสลดวิญญาณสลาย แต่ก็ยังคงมิอาจได้ชัย ทั้งคู่นั้นฝีมือก้ำกึ่งกันยิ่ง สี่กระบวนท่าพอพ้นผ่าน หนึ่งชราหนึ่งเยาว์วัยต่างนับถือเลื่อมใสต่อฝ่ายตรงข้าม เอี้ยก้วยครุ่นคิดขึ้น ศัตรูเข้มแข็งที่เคยเจอมานับผู้เฒ่าท่านนี้ตึงมือที่สุด คิดหมายเอาชัยไม่ง่ายดายจริงๆ หากแม้นต้องการพิสูจน์ผลแพ้ชนะ มิอาจไม่หักล้างกำลังภายในกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น หากมิใช้ปรากฎเป็นสภาพหนึ่งตกตายหนึ่งบาดเจ็บ ก็อาจตกตายตามกันไปทั้งคู่ เล่ม 4 หน้า 258 จากความตอนนี้ก็พอจะบอกได้ว่าทั้งคู่มีพลังฝีมือใกล้เคียงกันมาก จิวแป๊ะธงถือเป็นจอมยุทธที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของเรื่อง ยังเลื่อมใสและเคยกล่าวชมวิชาของเอี้ยก้วยต่อหน้าอึ้งย้ง โดยในตอนนั้นจิวแป๊ะธงชักชวนอึ้งย้งมาเพื่อจะให้ชมผึ้งหยกที่เขาฝึกเลี้ยงไว้ และได้พูดถึงวิชาของเอี้ยก้วย ตามความตอนนี้ อึ้งย้งกล่าวว่า "วิชาฝีมือของเฒ่าทารก ข้าพเจ้ายอมรับนับถือตั้งแต่เล็ก หลายปีนี้บัญญัติคิดค้นวิชาพิศดารอะไรอีก" จิวแป๊ะธงสั่นศีรษะกล่าวว่า "มิใช่ มิใช่ วิชาฝีมือที่ดีที่สุดในหลายปีนี้ เป็นฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายของเด็กน้อยเอี้ยก้วย เฒ่าทารกละอายที่สู้ไม่ได้ เรื่องวิชาการต่อสู้อย่าได้เอ่ยถึงอีก" อึ้งย้งลอบประหลาดใจ ครุ่นคิดขึ้น "เอี้ยก้วยผู้นี้ยอดเยี่ยมจริงๆ ทางด้านผู้เยาว์มีก๊วยเซียงน้อย ผู้สูงอายุมีเฒ่าทารก ล้วนนิยมเลื่อมใสเขา ไม่ทราบวิชาฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายนั้นเป็นแนววิชาอันใด" เล่ม 4 หน้า 456 ต่อมาเป็นฉากที่เอี้ยก้วยไปช่วยก๊วยเซียงไว้จากนีม่อชิง เอี้ยก้วยใช้กำลังภายในซัดปิ่นของก๊วยเซียงทะลุมือไปปักที่กลางกระขม่อมของนี่ม่อชิง ปิ่นนี้เปราะบางกระแทกเบาๆก็หัก กลับซัดทะลุฝ่ามือของยอดฝีมือเข้าไปปักที่จุดสังหารได้ กำลังภายในที่เอี้ยก้วยใช้เป็นไปในแนวแกร่งกร้าวบริสุทธิ์ ก่อนนี้บุคคนเช่นนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นคือ ก๊วยเจ๋งกับอั้งชิกกง แต่บัดนี้เอี้ยก้วยเป็นอีกคนที่ใช้พลังแนวนี้ได้เทียบเท่า อีกฉากที่กิมย้งพยายามบอกให้ผู้อ่านได้รู้ถึงระดับฝีมือของเอี้ยก้วย คือเมื่อตอนประลองกับ อึ้งเอี๊ยะซือ ทั้งคู่ประลองกัน โดยใช้ อี่เคอซี เซียวเซียงจื่อและคนหน้าดำอีกคน ขั้นกลาง โดยอยู่ห่างกันซัดฝ่ามือสลับไปมา เซียวเซียงจื่อกับพวกกลับคล้ายเป็นลูกหนังถูกโยนไปมา ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายใช้ถึงครึ่งหนึ่ง เพลงฝ่ามือเทพกระบี่บุปผาร่วงของอึ้งเอี๊ยะซื้อก็ตกเป็นรองแล้ว ดังนั้นอึ้งเอี๊ยะซือจึงเปลี่ยนเป็นวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธ์ จึงต่อสู้ได้คู่คี่ก้ำกึ่ง ไม่มีผู้ใดเหนือล้ำกว่าผู้ใด อึ้งเอี้ยซือได้กล่าวว่า เพลงฝ่ามือของเล่าตี๋ชุดนี้ หากวิจารณ์ถึงความหนักหน่วงแกร่งกร้าว ทั้วแผ่นดินนี้มีแต่สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของเขยเรา ที่สามารถทัดเทียบเปรียบได้ ส่วนเพลงฝ่ามือเทพกระบี่บุปผาร่วงของเล่าฮู กลับด้วยกว่าขั้นหนึ่ง เล่ม 4 หน้า 420 สี่ฉากที่กล่าวมาล้วนเป็นการวัดระดับฝีมือจากจอมยุทธที่อยู่ในระดับสุดยอดของเรื่องทั้งสิ้น บางฉากบางตอนอาจไม่ได้มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องมากนัก แต่เป็นการทำให้ผู้อ่านได้ทราบว่า เอี้ยก้วยมีพลังฝีมือขึ้นมาทัดเทียบกับจอมยุทธเหล่านี้แล้ว |
K!K_NuuM!n>< | [ 18-03-2007 - 21:01:36 ] |
---|---|
![]() | ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:01:54 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() Quote : ไข่เน่า Quote : หมินหมิ่นหยู คงเพราะนอนเตียวหยกละมั้งนะ
มันคงเป็นพรมลิขิตล่ะมั้ง ที่เขียนให้เป็นอย่างน้าน ![]() ![]() |
ไข่เน่า | [ 18-03-2007 - 21:02:07 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() Quote : K!K_NuuM!n>< ![]() เค้าชื่อ กิ๊ก อ่านะ สงสัยมักมาก ชื่อกิ๊กคุ้นเนอะเหมือนเป็นเนี้ยคู่กัน ![]() |
Ple***CC***SHK | [ 18-03-2007 - 21:02:19 ] |
---|---|
![]() | วันนี้เห็นพระเอกรู้สึกว่าความ ![]() ![]() ![]() |
K!K_NuuM!n>< | [ 18-03-2007 - 21:02:41 ] |
---|---|
![]() | ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:03:39 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ใช่จ้ะเท่าที่มินเคยอ่านมาเป็นเพราะเซียวเหล่งนึ่งนอนบนเตียงหยกเย็นมาตั้งนาน |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:04:41 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย
เป็นฝ่ามือที่เอี้ยก้วยเป็นผู้บัญญัติขึ้นเอง โดยหลังจากฝึกฝีมือกลางคลื่นทะเล หลายปีต่อมาจึงมีกำลังภายในรุดหน้าตามลำดับ มีอยู่วันหนึ่ง เอี้ยก้วยยืนอยู่ชายฝั่งทะเลเป็นเวลานาน ยามไร้เรื่องราวทดลองต่อยหมัดเตะเท้า เนื่องด้วยมีพลังการฝึกปรือล้ำลึก พอลงมือก็เปร่งอนุภาพไพศาล เพียงฝ่ามือเดียวถึงกับฟาดกระดองของเต่าทะเล ซึ่งอยู่บนชายหาดตัวหนึ่งแตกสลาย ดังนั้นใช้ความคิดบัญญัติเพลงฝ่ามือขึ้นมาชุดหนึ่ง ลงมือด้วยท่วงท่าแตกต่างกับวิชาฝีมือธรรมดาทั่วไป ความร้ายกาจอยู่ที่กำลังภายใน มีทั้งสิ้นสิบเจ็ดกระบวนท่า ในชีวิตเอี้ยก้วยได้รับการชี้แนะจากยอดฝีมือไม่น้อย เริ่มจากร่ำเรียนเคล็ดข้อความกำลังภายในจากสำนักชวนจินก่า จากนั้นเซียวเหล่งนึ่งถ่ายทอดเคล็ดวิชาในคัมภีร์สุรางคนางค์ให้ ระหว่างที่อยู่ในสุสานโบราณพบเห็นคัมภีร์เก้าอิม อาวเอี้ยงฮงก็ถ่ายทอดลมปราณคางคก และวิธีบังคับชีพจรย้อนกลับ อั้งชิกกงและอึ้งย้งถ่ายทอดวิชาไม้เท้าตีสุนัขให้ ส่วนอึ้งเอี๊ยะซืออธิบายวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ และเพลงกระบี่ขลุ่ยหยกแก่เขา นอกจากวิชาดรรชนีเอกสุริยันแล้ว กล่าวได้ว่าศึกษาวิชาฝีมือของ ภูตบูรพา พิษประจิม ยาจกอุดร และกลางอิทธิฤทธิ์ สำหรับแนววิชาของสำนักสุสานโบราณ ก็เป็นมรรคาอีกสายหนึ่งนอกเหนือจากห้าสุดยอดฝีมือ ยามนี้พอหล่อหลอมรวมกัน ก็กำหนดเป็นอีกแนวทางหนึ่ง เพียงแต่เอี้ยก้วยหลงเหลือเพียงแขนเดียว ดังนั้นไม่อาศัยการเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่าเข้าเอาชัย จงใจสวนทางกับหลักเหตุผลของวิชาบู๊ เอี้ยก้วยตั้งชื่อเพลงฝ่ามือชุดนี้ว่า เพลงฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย โดยนำมาจากข้อความในกาพย์เปียกฮู่ ( กาพย์ลาจากจร ) ของกังเอียม ที่ว่า "เศร้ากำสรดวิญญาณสลาย คลาดคลาหายจากจรไปแสนไกล" และได้ใช้ฝ่ามือนี้ครั้งแรกตอนได้พบจิวแป๊ะธง วิชาที่คิดค้นขึ้นเอง ก่อนที่จะคิดค้นวิชาฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายนั้น เอี้ยก้วยก็เคยได้คิดค้นวิชาเล็กๆน้อยๆขึ้นเองมาบ้างแล้ว อย่างในตอนแรกที่สู้กับราชบุตรฮั่วตู่ก็เคยได้ใช้ออก ดังความตอนนี้ เอี้ยก้วยถอยไปหลายก้าว ทรุดนั่งลงข้างกายเซียวเหล่งนึ่ง ยกมือขวาท้าวคาง โบกมือซ้ายเบาๆ ทอดถอนใจคำหนึ่ง สีหน้าปรากฎแววอ้างว้างเดียวดาย เป็นกระบวนท่าสุดท้ายอันเป็นการสิ้นสุดของเพลงหมัดหญิงงาม นาม เดียวดายในสุสานโบราณ ซึ่งเป็นเอี้ยก้วยบัญญัติขึ้นเอง นอกจากลิ้งเชียวเอ็งไม่ทราบ เซียวเหล่งนึ่งก็หาล่วงรู้ไม่ เล่ม 2 หน้า 170 จากนั้นยังมีเมื่อครั้งที่ต่อสู้กับกงซุนจี้ เอี้ยก้วยก็ได้ใช้ออกด้วยเพลงกระบี่ที่คิดขึ้นเองอีกชุดหนึ่ง โดยเอื่อนเอ่ยบทกวีออกมาพร้อมกับร่ายรำเพลงกระบี่ไปด้วย ตามความตอนนี้ บทกวีนี้เอื่อนเอ่ยอย่างปลอดโปร่ง เพลงกระบี่กลับโอ่อ่าผ่าเผยโดดเด่นสง่างาม โดยเฉพาะสองท่าสุดท้านแผ่วพริ้วพิศดาร บัดเดี๋ยวซ้ายกลายเป็นขวา มุ่งขึ้นบนจู่โจมล่าง กระบวนเพลงเดียวสองกระบี่ ยากจำแนกสภาพจริงเท็จได้ เล่ม 2 หน้า 541 เพลงกระบี้นี่คิดขึ้นจากหนังสือกวีเล่มหนึ่ง คราก่อนเอี้ยก้วยเห็นจูจื้อลิ้วดัดแปลงวิชาลายมือเป็นกระบวนท่าฝีมือ เลยลองดัดแปลงบทกวีมาเป็นเพลงกระบี่บ้าง ประสบการณ์ในเชิงบู๊ สิ่งที่ทำให้เอี้ยก้วยมีความรอบรู้ในวิชาบู๊มากมายจนสามารถบัญญัติวิชาขึ้นเองได้ นอกจากได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆมากมายจากยอดคนแล้ว เอี้ยก้วยยังมีประสบการณ์ต่อสู้อย่างโชกโชน และยังมีโอกาสได้เห็นการต่อสู้ของจอมยุทธหลายต่อหลายคน ซึ่งสามารถนำมาเป็นประโยชน์กับตนเองได้ ดังเช่นตอนที่ได้เห็นก๊วยเจ๋งประทะกับ ราชครูกิมลุ้น ก๊วยเจ๋งได้ใช้ออกด้วยวิชาสิบแปดฝ่ามือสยบมังกรผสมผสานเข้ากับวิชาเก้าอิม ดังความตอนนี้ เอี้ยก้วยชมดูอยู่ด้านข้างในใจบังเกิดความเลื่อมใสเหลือประมาณ เอี้ยก้วยเคยฝึกปรือเคล็ดวิชาเก้าอิม เพียงแต่ขาดผู้ชี้แนะไม่ทราบว่ามีความล้ำลึกพิศดารถึงเพียงนี้ เมื่อได้เห็นเพลงฝ่ามือขอก๊วยเจ๋ง ทำใหคิดถึงแนวทางหมัดอันลึกล้ำไม่น้อย เล่ม 3 หน้า 61 หรือในตอนที่สู้กับกงซุนจี้ ก็ได้ฮิ้วโชวเชี๊ยะบอกให้หมุนตัวอ้อมไปด้านหลังกงซุนจี้ พอไปถึงด้านหลังแล้ว กลับบอกให้หมุนกลับไปด้านหน้า ดูไปเหมือนเป็นการเคลื่อนที่ ที่ไร้ความหมาย แต่พอหมุนตัวอยู่หลายรอบกลับได้พบว่าใต้ซอกแขนขวาของกงซุนจี้เกิดช่องโหว่ขึ้น ฮิ้วโชวเชี๊ยะไม่ได้ชี้แนะเอี้เยก้วย พิชิตชัยอย่างไร หากแต่แนะนำเอี้ยก้วยค้นหาโอกาสพิชิตชัย จากสภาพที่ไม่อาจเอาชัยได้ ทั้งไม่ได้ระบุช่องโหว่ในกระบวนท่าของกงซุนจี้ หากแต่ให้เอี้ยก้วยล่อลวงกงซุนจี้จนเผยช่องโหว่ จากกระบวนท่าที่ปราศจากช่องว่างรอยโหว่ นางชี้แนะติดต่อกันหลายครั้ง เอี้ยก้วยก็เข้าใจแก่แท้ของวิชาฝีมือชั้นสูง ครุ่นคิดในใจ "หากคู่ต่อสู้เป็นยอดฝีมือ ในกระบวนท่าไหนเลยมีช่องโหว่ให้ฉกฉวย คำชี้แนะของผู้อวุโสแซ่ฮิ้วนี้ นับว่าอำนวยประโยชน์แก่ผู้คนชั่วชีวิต" เล่ม 2 หน้า 539 ยังมีครั้งที่ได้พบเห็น ยอดคนอย่างอั้งชิกกงประทะกับอาวเอี้ยงฮง เป็นประสบการณ์ที่ยากจะพานพบ และอีกหลายๆครั้งจากหลายๆยอดฝีมือ ประสบการณ์เหล่านี้ล้วนแต่มีประโยชน์ ทำให้เอี้ยก้วยสามารถบัญญัติยอดวิชาอย่างวิชา ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย ขึ้นมาได้ สิบเจ็ดฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย ซิมเกียเน็กเถี่ยว ( เนื้อเต้นใจสะท้าน ) กีนั้งอิวเทียน ( วิตกทุกร้อนเกินเหตุ ) บ้อตังแซ่อู๋ ( เสกสรรปั้นเรื่องราว ) ทัวนี้ตั่วจุ้ย ( ยืดเยื้อชวนรำคาญ ) ไป๊ฮ้วยคงก๊ก ( วนเวียนหุบเขาร้าง ) ลักปุกชงซิม ( ใจสู้ขาดแรงหนุน ) เกียซีเจ้าเน็ก ( ซากศพเดินได้ ) ย้งนั้งจื่ออิว ( คนเขลาหาเรื่องใส่ตน ) ต้อเกี้ยเง็กซี ( ฝืนทวนความประพฤติ ) ฮุ่ยจิ้มบ้วงเจี๊ยะ ( ลืมกินไม่หลับนอน ) โกวเฮ้งเจียะเอี้ย ( เงาโดดเดี่ยวร่างเดียวดาย ) อิ้มหึงทุงเซีย ( กลืนความแค้นไม่ออกปาก ) ลักซิ้งปุกอัน ( จิตทั้งหกไม่สงบ ) ข้งทู้ม้วกโล่ว ( อับจนสิ้นหนทาง ) มิ่นบ้อนั้งเส็ก ( หน้าไร้แววผู้คน ) เสียยิบฮุยฮุย ( จิตฟุ้งซ่านรัญจวน ) ไง้เยียกบักโกย ( ตะลึงงันราวกิ่งไม้ ) รายละเอียดของกระบวนท่า ฝ่ามือนี้มีอยู่ทั้งหมดสิบเจ็บกระบวนท่า เอี้ยก้วยได้บอกชื่อกระบวนท่าทั้งหมดแก่จิวแป๊ะธง ภายหลังได้แสดงแต่ละกระบวนท่าให้ชมดู แต่ที่มีอธิบายในนิยายมีอยู่ ดังนี้ ซิมเกียเน็กเถี่ยว ( เนื้อเต้นใจสะท้าน ) เป็นกระบวนท่าที่สิบสาม สามารถบังคับกล้ามเนื้อ ทรวงอกยุบเข้าด้านใน แล้วดีดกระดอนออกโจมตีศัตรู กีนั้งอิวเทียน ( วิตกทุกร้อนเกินเหตุ ) เป็นวิชาฝ่ามือที่ฟาดพาดเฉียง พลังฝ่ามือกลับกลายเป็นรูปโค้ง กระจายลงรอบด้านปกคลุมพื้นที่กว้างไพศาล ไม่สามารถหลบหลีกรอดพ้น ฝ่ามือนี้มีความรุนแรง แม้แต่จิวแป๊ะธง ถ้ามาเปรียบเทียบฝ่ามือต่อฝ่ามือแล้ว ฝ่ามือของจิวแป๊ะธงไม่กล้าแข็งแกร่งกร้าวเท่ากับพลังฝ่ามือของเอี้ยก้วย บ้อตังแซ่อู๋ ( เสกสรรปั้นเรื่องราว ) เคลื่อนไหวทั้งมือเท้า ซ้ายฝ่ามือ ขวาแขนเสื้อ ขยับสองเท้าพุ่งศีรษะชน แม้แต่ทรวงอกหลังไหล่ล้วนใช้กระบวนท่าออก ไม่มีส่วนใดไม่ทำร้ายศัตรู สิบกว่ากระบวนท่าจู่โจมถึงโดยพร้อมเพรียง ที่ว่ากระบวนท่าเสกสรรปั้นเรื่องราวมีเพียงท่าเดียวแต่แฝงท่าตามหลังสิบกว่าท่วงท่า ทัวนี้ตั่วจุ้ย ( ยืดเยื้อชวนรำคาญ ) แขนเสื้อข้างขวาโบสสะบัด ราวกับสายน้ำหลังไหล แต่มือซ้ายสะดุดลากถ่วง คล้ายกำลังลากดึงดินโคลนหนักหลายพันชั่งก็ปาน แขนเสื้อเป็นภาพลักษณ์ของทิศเหนือ มือซ้ายเป็นภาพลักษณ์ของกึ่งกลาง ประกอบด้วยความคล่องแคล่วหนักหน่วง มิ่นบ้อนั้งเส็ก ( หน้าไร้แววผู้คน ) เป็นกรนะบวนท่าหนึ่งแต่แฝงความเปลี่ยนแปลงมากหลาย สีหน้าปรากฎแววยินดี เดือดดาร โศกศัลย์ หรรษา เต็มไปด้วยความประหลาดพิกล ศัตรูพบเห็น ยากที่จะควบคุมจิตสำนึกตัวเองได้ เรายินดีศัตรูยินดี เรากังวลศัตรูกังวล สุดท้ายตกอยู่ในอาณัติของผู้ใช้วิชา นี่เป็นวิธีพิชิตศัตรูที่ไร้เสียงไร้เงา เปรียบกับการกู่ร้องสยบศัตรูยังเหนือล้ำกว่าขี้นหนึ่ง กระบวนท่านี้ดัดแปลงมาจากยอดวิชาย้ายวิญญาณในคัมภีย์เก้าอิม ต้อเกี้ยเง็กซี ( ฝืนทวนความประพฤติ ) เป็นกรนะบวนท่าที่มีการเปลี่ยนแปลงสามสิบเจ็ดแบบ มีต้นกำเนิดจากวิชาฝีมือของพิษประจิมอาวเอี้ยงฮง แต่ว่าล้ำลึกกว่า ในย้อนทวนมีท่าตรง ตรงและย้อนทวนหักล้างกันเอง สะกดข่มกันเอง มิอาจใช้เหตุผลอธิบายได้ |
ไข่เน่า | [ 18-03-2007 - 21:04:43 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() Quote : หมินหมิ่นหยู ใช่จ้ะเท่าที่มินเคยอ่านมาเป็นเพราะเซียวเหล่งนึ่งนอนบนเตียงหยกเย็นมาตั้งนาน
พีมินความรู้ล้ำลึกมาก ศิษย์คาราวะอาจารย์ ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:05:17 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() อยากมีวรยุธบ้างจังอ่านแล้วก้อไม่เข้าใจ ![]() |
Ple***CC***SHK | [ 18-03-2007 - 21:05:47 ] |
---|---|
![]() | ![]() เพิ่งเห็นความหล่อพระเอก จิงๆๆวันนี้ หุหุหหุ ![]() ![]() |
K!K_NuuM!n>< | [ 18-03-2007 - 21:06:31 ] |
---|---|
![]() | Quote : หมินหมิ่นหยู ใช่จ้ะเท่าที่มินเคยอ่านมาเป็นเพราะเซียวเหล่งนึ่งนอนบนเตียงหยกเย็นมาตั้งนาน
เลยทำให้ เซียวเหล่งนึ้ง ไม่แก่หรอมิน - - |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:07:28 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() Quote : ไข่เน่า Quote : หมินหมิ่นหยู ใช่จ้ะเท่าที่มินเคยอ่านมาเป็นเพราะเซียวเหล่งนึ่งนอนบนเตียงหยกเย็นมาตั้งนาน
พีมินความรู้ล้ำลึกมาก ศิษย์คาราวะอาจารย์ ![]() |
เว็บนี้มีการใช้งาน cookie | ไม่ยอมรับ |