K!K_NuuM!n>< | [ 18-03-2007 - 21:07:36 ] |
---|---|
![]() | ![]() |
Ple***CC***SHK | [ 18-03-2007 - 21:09:26 ] |
---|---|
![]() | ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:09:32 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ให้วรยุทธแข็งกล้าและคงความเยาว์วัยขึ้นอะนะ...ก็ดูความสวยของเซียวเหล่งนึ่งสิดูเยือกเย็นประดุจน้ำแข็ง..ลองอ่านที่พี่มินลงให้ดูก้อได้ |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:10:09 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() แต่สู้เซียวหยาวไม่ได้อะพี่เปิ้ล ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:11:25 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() มือพิชิตมังกรสิบแปดท่า
ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า หรืออาจจะเรียกเป็น ฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่า หรือผ่ามือปราบมังกรสิบแปดท่า ก็ตาม ล้วนแต่มีความหมายเดียวกัน วิชาฝีมือนี้มีบทบาทอย่างกว้างขวางในนิยายของกิมย้ง ผู้ใช้วิชานี้มักจะเป็นยอดแห่งจอมยุทธในยุคนั้นๆ แม้ว่าในยุคหลังๆจะเสื่อมถอยลงแต่ก็ยังมีการพูดถึงอยู่ ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่าเป็นวิชาประจำพรรคกระยาจก ซึ่งเป็นพรรคที่ยิ่งใหญ่มีสมาชิกนับแสนกระจายอยู่ทั้วแผ่นดิน วิชาฝีมือนี่เป็นไปในทางกล้าแกร่งตรงไปตรงมา ผู้ที่เหมาะกับการฝึกวิชานี้จะต้องมีร่างกายกำยำแข็งแรง จึงไม่เหมาะกับสตรี วิชานี้มีผู้ใช้อยู่หลายคน บางคนแม้ไม่ใช่ศิษย์พรรคกระยาจกก็มีโอกาสได้ฝึก แต่ที่โดดเด่นสะท้านยุทธภพ มีดังนี้ เฉียวฟง หรือเซียงฟง พูดถึงวิชาฝีมือนี้ต้องกล่าวย้อนไปถึงยอดคนในยุคแรกๆ ตั้งแต่ยุคของแปดเทพอสูรมังกรฟ้า ก็มียอดคนผู้หนึ่งใช้วิชานี้ได้อย่างช่ำชองยิ่ง นั่นคือ เฉียวฟง จอมยุทธผู้เรืองนามในยุคนั้น ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าในยุคแปดเทพฯนั้นเป็นยุคที่มียอดวิชาที่สุดร้ายกาจแสนพิศดารอยู่มากมาย จอมยุทธแต่ละคนล้วนมีฝีมือสูงเยี่ยมเป็นที่สุด แต่กระนั้น เฉียงฟงยังคงใช้ วิชา สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร วิชาเดียวนี้ โลดเล่นอยู่ในยุทธจักรในยุคแปดเทพฯ ได้อย่างองอาจไร้ผู้ต่อต้าน จนกล่าวกันว่า เฉียวฟงเป็นผู้ที่ใช้ท่า ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า ได้เก่งกาจที่สุด ยาจกอุดรอั้งชิกกง มาถึงยุคของมังกรหยก วิชานี่ยังคงอนุภาพร้ายจากสั่นครอนยุทธภพ ผู้ที่ใช้วิชานี้คืออั้งชิกกง ประมุกพรรคกระยาจก อั้งชิกกงได้รวบรวมวิชานี้ที่กระจัดกระจายอยู่มาได้ทั้งหมดสิบห้าท่า และเพื่อให้ครบสมบูรณ์ตามชื่อวิชา อั้งชิกกงใช้ความอัฉริยาของตนเองบัญญัติคิดค้นขึ้นเองอีกสามท่า รวมเป็นสิบแปดท่าตามเดิม และใช้วิชานี้ โลดเล่นเป็นหนึ่งในยอดจอมยุทธ์ ของยุคนั้น เทียบเคียงกับ อึ้งเอี๊ยะซือ อาวเอี้ยงฮง และอิดเต็งไต้ซือ ก๊วยเจ๋ง ก๊วยเจ๋งได้รับการสืบทอดวิชานี้มาจากอั้งชิกกง และเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีความสำเร็จในยอดวิชานี้อย่างที่สุด สามารถใช่ร่วมกับวิชาอื่นๆที่ตัวเองมีได้อย่างกลมกลืน สำหรับในมังกรหยกภาคสองนั้น วิชานี้ของก๊วยเจ๋งได้สำแดงเดจครั้งแรกตอนที่ประทะกับอาวเอี้ยงฮง โดยก๊วยเจ๋งใช้ออกด้วยท่าพญามังกรผยองได้สำนึก กิมย้งนั้นได้อธิบายความร้ายกาจของกระบวนท่านี้ว่า ก๊วยเจ๋งทบทวนฝึกกระบวนท่านี้โดยไม่ว่างเว้น ตอนแรกเริ่มฝึกปรือก็ร้ายกาจยิ่ง บวกกับการมานะฝึกปรือตลอดมา นับว่าก้าวถึงขั้นสุดยอด ตอนแรกที่ผลักมือออกดูไปคล้ายราบเรียบธรรมดา แต่พอเผชิญารต่อต้านสามารถเพิ่มพลังตามหลังอีกสิบสามชั้นในชั่วพริบตา แต่ละชั้นทวีความกล้าแข็ง เป็นอนุภาพการทำลายล้างอย่างรุนแรง นี่เป็นเคล็ดความพิศดารที่ก๊วยเจ๋งได้คิดจากการศึกษาคัมภีร์เก้าอิม เพียงนับกระบวนท่านี้ แม้แต่อั้งชิกกงเมื่อครั้งกระโน้น ก็ไม่มีความสำเร็จลึกล้ำถึงขั้นนี้ เล่ม 1 หน้า 111 จากนั้นในตอนขึ้นเขาไปสำนักชวนจินก่า ก๊วยเจ๋งก็ได้สำแดงเดจกระบวนท่านี้อีกครั้ง เพื่อฝ่าค่ายกลใหญ่ฟ้าดาวเหนือ โดยสามารถใช้วิชา ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่ารวมกับวิชาสองมือพันตูของจิวแป๊ะธงได้อย่างสอดคล้อง ดังความตอนนี้ ก๊วยเจ๋งมือซ้ายใช้ออกดวยท่ามังกรซ่อนกบดาน มือขวาใช้ด้วยท่าพญามังกรผยองได้สำนึก สำแดงวิชาสองมือพันตูกันเอง แยกย้ายจู่โจมด้านซ้ายขวาโดยพร้อมเพรียง ยังไม่ทันใช้กระบวนท่าถึงที่สุด พลันแปรเปลี่ยนแต่กลางคัน ท่ามังกรซ่อนกบดานเปลี่ยนเป็นท่าพญามังกรผยองได้สำนึก ท่าพญามังกรผยองได้สำนึกกลายเป็นท่ามังกรซ่อนกบดาน ก๊วยเจ๋งใช้วิชาสองมือพันตูกันเอง ฝ่ามือทั้งสองใช้กระบวนท่าที่แตกต่างกัน นับเป็นความยากลำบากอยู่แล้ว มิหนำซ้ำยังสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าได้กลางคันอีกด้วย เล่ม 1 หน้า 186 และเมื่อตอนบุกค่ายมองโกล ก๊วยเจ๋งต้องประทะกับราชครูกิมลุ้นและพวก ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่ตึงมือยิ่ง กิมย้งยังได้อธิบายถึงความสำเร็จของวิชานี้ของก๊วยเจ็งที่นำยอดวิชาที่ร่ำเรียนมาผสมผสานกลมกลืนกันใช้ออกได้อย่างย่อดเยี่ยม เกือบยี่สิบปีมานี้ ก๊วยเจ๋งฝึกปรือเคล็ดวิชาในคัมภีร์เก้าอิม พลังของสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรบัดเดี๋ยวอ่อนบัดเดี๋ยวแข็ง บัดเดี๋ยวยืดบัดเดี๋ยวหด ในความกล้าแกร่งสุดยอดกลับแฝงประสิทธิภาพของความอ่อนหยุ่น บวกกับท่าฝ่ามือของเขา เคลือบแฝงค่ายกลฟ้าดาวเหนือของสำนักชวนจินก่า ขณะที่โรงรันสามารถพุ่งตัวย้อนไปมา ผู้คนหนึ่งคล้ายแปลงร่างเป็นเจ็ดคน เล่ม 3 หน้า 61 นอกจากยอดคนเหล่านี้ก็ยังมีอีกหลายคนที่ใช้วิชานี้ได้ ก๊วยเจ็งก็ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ลูกและศิษย์ บู๊ตุงยู้ก็เคยจะใช้ท่านี้เพื่อต่อสู้กับฮั่วตู แต่ด้วยพลังฝีมือที่อ่อนด้วยของบู๊ตุงยู้ไหนเลยจะแสดงอนุภาพของยอดวิชานี้ได้ แต่เพียงแค่ตั้งท่า ก็ข่มขวัญราชบุตรฮั่วตูได้ สุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดใช้ยอดวิชานี้ได้อย่างสมบูรณ์อีก หลังจากนั้นวิชานี้ก็ค่อยๆเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ |
kik | [ 18-03-2007 - 21:12:00 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ผิดๆๆๆ โทดทีโพสผิด
อ่า ไปล่ะนะ บะบาย ทุกคน ![]() |
Ple***CC***SHK | [ 18-03-2007 - 21:12:32 ] |
---|---|
![]() | ช่ายแล้วมินสู้เซี่ยวเหยามะได้จ้า หูเกอหล่อกว่าเป็นไหนๆๆ แต่เอี้ยก้วยก้อแมนไปอีกแบบนะฮ่าๆๆ ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:13:11 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ก๊วยเซียง
ก๊วยเซียงเป็นอีกหนึ่งตัวละครสาวที่มีผู้คนชื่อชอบมากที่สุดในเรื่อง นางเป็นธิดาคนที่สอง ของก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้ง อายุของนางห่างจากก๊วยพู้ที่เป็นผู้พี่อยู่มากทีเดียว ตอนที่อึ้งย้งตั้งครรภ์ก๊วยเซียง ตอนนั้นก๊วยพู้ก็อายุสิบหกสิบเจ็ดแล้ว ก๊วยเซียงนั้นมีลักษณะนิสัยตรงข้ามกับก๊วยพู้ในหลายๆด้าน ลักษณะของก๊วยเซียงนั้นจะเป็นการเอาในส่วนที่ดีของบิดาและมารดามารวมกัน โดยได้ถ่ายทอดความเฉลียวฉลาดมาจากมารดา และได้ความใจกว้างมีคุณธรรมมาจากบิดา ทำให้รวมออกมาเป็นสตรีที่น่ารัก เป็นที่รักของคนที่อยู่ใกล้ รวมทั้งเป็นที่รักของคนอ่านนิยายเรื่องนี้ด้วย ชื่อของก๊วยเซียงนั้นอึ้งย้งเป็นคนตั้ง โดยตั้งตามชื่อเมืองเซียงเอี้ยง เมื่องที่ก๊วยเจ๋งใช้เวลากว่าค่อนชีวิตคอยเฝ้าปกป้องอยู่ เพื่อที่นางจะได้จดจำว่า ตังเองเกิดมาท่ามกลางนครที่ถูกปิดล้อมระหว่างทำศึกสงคราม ก๊วยเซียงได้เกิดที่เมืองนั้นในขณะที่กำลังสู้รบกับกองทัพมองโกลถึงจุดวิกฤต โดยในช่วงเวลาที่นางเกิดทางฝ่ายมองโกลอาศัยช่วงที่ก๊วยเจ๋งยังรักษาบาดเจ็บอยู่ ส่งยอดฝีมือลอบเข้ามาในเมือง เพื่อหวังจะกำจัดก๊วยเจ๋งและพวกให้หมดสิ้น ก๊วยเซียงเกิดขึ้นมาในช่วงเวลาที่กำลังคับขันถึงที่สุด ราชครูกิมลุ้นกำลังตามหาก๊วยเจ๋งอยู่ เอี้ยก้วยได้ล่อให้ไปทางอื่นเพื่อให้ อึ้งย้งกับก๊วยเจ๋งมีเวลาหลบหนีได้ แต่ก๊วยเซียงก็จำเพาะจะมาเกิดในตอนนั้นพอดี หลังจากเกิดมาไม่ถึงชั่วยาม ก๊วยเซียงต้องผ่านประสบการณ์ไปอยู่ในมือของยอดฝีมือมากมายที่พยายามแย่งชิงตัวนาง ตั้งแต่เซียวเหล่งนึ่ง เอี้ยก้วย จนถูกลี้มกโช้วแย่งไป ตลอดจนไปถึงราชครูกิมลุ้นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของมองโกลก็เคยได้อุ้มนางมาแล้ว สุดท้ายตกไปอยู่ในมือของลี้มกโช้ว ซึ่งในเวลานั้น ลี้มกโช้ว ถือเป็นนางมารที่มีนิสัยชั่วร้ายอำมหิตที่สุด นางสามารถสังหารทารกได้โดยไม่กระพริบตา แต่ด้วยอำนาจบางอย่างที่มีอยู่ในตัวก๊วยเซียงมาตั้งแต่เกิด อำนาจที่เมื่ออยู่ใกล้ใคร ใครก็รัก ก็เอ็นดู แม้แต่นางมารร้ายผู้โหด+++มอย่างลี้มกโช้ว ยังอดที่จะรักใคร่เอ็นดูไม่ได้ ลี้มกโช้รับเลี้ยงก๊วยเซียงไว้ด้วยความเอ็นดูอย่างที่นางไม่เคยมีมาก่อน โดยใช้นมของแม่เสือดาว เป็นอาหารให้ทารกน้อย นางเลี้ยงดูก๊วยเซียงอย่างอ่อนโยนอยู่เป็นเวลาเดือนเศษจนเกิดเป็นความผูกพัน ภายหลังมาพบกับอึ้งย้งแล้วสู้ไม่ได้ทั้งทางปัญญาและฝีมือ จึงจำต้องเสียทารกน้อยไปจากอ้อมอก จากนั้นก๊วยเซียงยังคงผ่านประสบการณ์อีกมากมายกว่าจะได้กลับสู้อ้อมอกมารดาในภายหลังที่หุบเขาสิ้นไมตรี ก๊วยเซียงได้รับการเลี้ยงดูที่ต่างจากพี่สาวของนางมาก เนื่องจากทั้งก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งต่างก็มีวัยที่สูงขึ้น และมีประสบการณ์จากธิดาคนแรกที่เลี้ยงอย่างตามใจเกินไปจนเสียคน เมื่อมาถึงคราวก๊วยเซียงทั้งคู่จึงเลี้ยงดูนางอย่างเข้มงวดมากขึ้น แต่ก๊วยเซียงมีนิสัยที่แปลก นางมันจะคิดหรือทำอะไรต่างออกไปจากที่บิดามารดาคิด และไม่ค่อยเชื่อฟัง จนถูกเรียกว่าเป็น มากบูรพาน้อย ก๊วยเซียง ปี 1995 ก๊วยเซียง ปี 1999 ก๊วยเซียง ปี 1983 ก๊วยเซียงมามีบทบาทอีกครั้งในช่วงหลังจากผ่านสิบหกปีมาแล้ว นับเป็นความลงตัวที่ท่านกิมย้งตั้งใจสร้างสรรขึ้น กิมย้งได้สร้างตัวละครนี้เก็บไว้ตั้งแต่เมื่อสิบหกปีก่อน และนำมาใช้อีกทีในช่วงเวลาที่เหมาะสมลงตัวที่สุด ช่วงที่นางกำลังเข้าสู่วัยสาวพอดี นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องสิบหกปี ถ้าหากน้อยกว่านั้น ก๊วยเซียงก็ยังอยู่วัยเด็กคงเอามาใช้สร้างสีสันให้กับเรื่องได้น้อย หากนานกว่านั้นก็จะเป็นการรอคอยที่นานเกินไป เอี้ยก้วยก็จะมีอายุที่สูงเกินพอดี หากสร้างเป็นตัวละครใหม่ขึ้นมาก็ออกจะดูไร้ที่มา ขาดน้ำหนัก สร้างความรู้สึกร่วมไม่ได้ หรือถ้าหากไม่มีตัวละครนี้ เรื่องราวในช่วงหลังจากสิบหกปีคงจืดชืด ความจริงแล้ว ก๊วยเซียงถือว่ามีความสำคัญต่อความเป็นไปของเนื้อเรื่องมาตั้งแต่เมื่อสิบหกปีที่แล้ว กิมย้งตั้งใจให้อึ้งย้งตั้งครรภ์เพื่อที่จะลดทอนบทบาทของตัวละครเอกจากภาคแรกลง เพราะเมื่อตั้งครรภ์ร่างกายก็จะอ่อนแอทำให้ลงมือไม่สะดวก ส่วนก๊วยเจ๋งก็ให้มีหน้าที่อยู่เฝ้าเมือง ถ้าหากทั้งคู่ยังคงโลดเล่นอยู่ในยุทธภพและสามารถลงมือได้อย่างอิสระ โอกาสที่เอี้ยก้วยจะมีบทเด่นก็คงจะหายไป จึงถือได้ว่าก๊วยเซียงมีความสำคัญต่อโครงเรื่องมาตั้งแต่ก่อนที่นางจะลืมตาดูโลกซะอีก และท่านกิมย้งยังคงสามารถนำเอาตัวละครตัวเดียวกันนี้มามีบทบาทในอีกสิบหกปีต่อมาอีกด้วย ทั้งหมดถือเป็นความลงตัวพอดี ที่เกิดจากการคิดคำนวนของท่านกิมย้ง ตั้งแต่ก๊วยเซียงกำเนิดเกิดมานอกจากเมื่อตอนที่ยังเป็นทารกแรกเกิดที่ถูกผู้คนแย่งชิงไปในที่ต่างๆแล้ว นางเติบโตเข้าสู่วัยสาวโดยที่ยังไม่เคยออกไปไหนไกลจากเมืองเซียงเอี้ยงเลย และครั้งแรกที่ได้ออกมา ก็ได้พานพบเรื่องราวมากมาย นางได้รู้จักกับยอดฝีมือหลายคน ทั้งเฒ่าทารกจิวแป๊ะธง อิตเต็งไต้ซือ รวมทั้งราชครูกิมลุ้น และด้วยเสน่ห์ที่พิเศษของนาง แม้แต่ราชครูกิมลุ้นยังคงอดที่จะชื่นชมเอ็นดูไม่ได้ กิมลุ้นมีศิษย์อยู่สามคน คนแรกเสียชีวิตไป คนที่สองมีสติปัญญาต้อยต่ำ คนที่สามจิตใจชั่วร้ายทรยศหักหลัง แต่ก๊วยเซียงนั้น ทั้งเฉลียวฉลาดเรียนรู้ไว้ ทั้งใจกว้างมีคุณธรรม จิตใจงดงาม เป็นที่พึงใจของกิมลุ้นมากจนปารถนาที่จะได้มาเป็นศิษย์ จึงดูแลก๊วยเซียงอย่างดี แต่สุดท้ายความปารถนานั้นก็ไม่เป็นผล ก๊วยเซียงเป็นคนฉลาด แต่ด้วยความที่จิตใจดีและอ่อนต่อโลกจึงหลงกลกิมลุ้น กิมลุ้นหลอกนางให้คลายจุดที่ถูก อึ้งเอี๊ยะซือ กับ อิดเต็งไต้ซื้อจี้จุดไว้ ทำให้กิมลุ้นหลุดจากการจับกุมไปได้ และยังจับตัวนางไปอีก ในใจกิมลุ้นแม้จะชื่นชอบในตัวก๊วยเซียงเป็นอย่างมาก หวังจะเอามาเป็นศิษย์ แต่เมื่อทราบว่าความหวังนั้นคงเป็นไปไม่ได้ จึงต้องตัดใจใช้ตัวก๊วยเซียงมาเป็นประโยชน์ในการทำศึกสงครามตีเมืองเซียงเอี้ยง โดยสร้างหอสูงสิบกว่าวาหลังหนึ่ง นำกิ่งไม้แห้งมาสุมอยู่รอบหอ แล้วนำตัวก๊วยเซียงไปมัดไว้บนยอด เพื่อข่มขู่ก๊วยเจ๋ง ก๊วยเจ๋งถือคุณธรรมเป็นใหญ่ไม่มีทางยอมแลกชีวิติธิดากับชาวเมืองเป็นแน่ หากจะฝ่ากองทัพไปช่วยก็สุดที่จะทำได้ จึงได้แต่ตะโกนบอกไปว่า "ก๊วยเซียง เจ้าเป็นธิดาซ้องอันประเสริฐ สมควรเผชิญความตายอย่างอาจหาญ" ก๊วยเซียงตอบกลับมาว่า "บิดามารดา ผู้บุตรไม่กลัว" ฉากนี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญของก๊วยเซียง หากเป็นก๊วยพู้ หรือคนอื่น คำตอบที่ได้คงต่างออกไป การออกมาท่องโลกครั้งนี้นางได้พบปะยอดคนมากมาย แต่ที่ตราตรึงใจที่สุดคงหนีไม่พ้นการได้พบกับเอี้ยก้วย นับเป็นประสบการณ์อันแสนพิเศษที่เปลี่ยนแปลงชีวิตที่เหลือของนางทั้งหมด เอี้ยก้วยเป็นชายที่เข้ามาในชีวิตของนางเพียงไม่กี่วัน แต่อยู่ในหัวใจของนางไปชั่วชีวิต ในมังกรหยกสาม ภาค ดาบมังกรหยก มีการกล่าวถึงก๊วยเซียงว่า นางได้ออกมาตามหาเอี้ยก้วยชายในฝัน แต่หาอย่างไรก็ไม่พบ จนมาได้มีโอกาสได้รับรู้เคล็ดวิชาเก้าเอี้ยงบางส่วน และด้วยสติปัญญาอันล้ำเลิศ นางสามารถเอามาดัดแปลง คิดค้นบัญญัติเป็นยอดวิชาของตัวเองได้ วิชาฝีมือของนางนั้นเคยมีกล่าวไว้ว่าเป็นยอดกระบี่อันดับหนึ่งของยุทจักร และภายหลัง หลังจากตามหาเอี้ยก้วยไม่พบ นางได้ออกบวช และได้ก่อตั้งสำนักง้อไบ้ที่โดงดังและมีบทบาทมากใน ดาบมังกรหยก ![]() |
Ple***CC***SHK | [ 18-03-2007 - 21:13:44 ] |
---|---|
![]() | ไปแล้วเหรอกิ๊กแล้วมาใหม่นะ |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:13:53 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() กิ้กจะไปแบ้วหรอ |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:14:16 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ไว้เจอกันใหม่น้า ![]() |
ไข่เน่า | [ 18-03-2007 - 21:16:02 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() Quote : หมินหมิ่นหยู ไว้เจอกันใหม่น้า
![]() ส่งจูบอีกและ ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:16:44 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() วิชาจากคำภีร์เก้าอิม ( คัมภีร์นพยม )
ต่อมายังได้รู้วิชาจากคำภีร์เก้าอิม ซึ่งจารึกไว้บนเพดานห้องใต้ดิน ผู้จารึกคือเฮ้งเต้งเอี้ยง หลังจากลิ้มเฉียวเอ็งเสียชีวิต เฮ้งเต้งเอี้ยงลอบเข้าสุสานโบราณได้เห็นเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ ที่ลิ้มเฉียวเอ็งจารึกไว้ สร้างความตระหนกจนหน้าถอดสี จึงพาตัวเองเข้าสู่ส่วนลึกของภูเขา ใช้เวลา 3 ปี หาวิธีทำลาย แต่ก็ยังหาไม่ได้จึงล้มเลิกไป สิบกว่าปีให้หลัง หลังจากได้คัมภีร์เก้าอิมมา ลองเปิดผ่านตาดูเห็นว่ามีหนทางเอาชนะได้ จึงจารึกเคล็ดวิชาเก้าอิม บนเพดานห้องศิลาใต้ดิน พร้อมกับระบุวิธีทำลายเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ อย่างไรก็ตามวิชาเก้าอิมที่จารึกไว้นี้ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ คัดเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเอาชนะวิชาของลิ้มเฉียวเอ็ง เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งใช้เวลาปีเศษในการฝึกฝน ...ใครเคยดูดาบมังกรหยกอะคะหากใครเคยดูดาบมังกรหยกก้อชอบจำวรยุทธกระบวนท่านี้ได้นะคำภีร์9อิมหรือคัมภีร์นพเก้าอะ |
Ple***CC***SHK | [ 18-03-2007 - 21:16:50 ] |
---|---|
![]() | ![]() |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:17:01 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() อิอิ.. |
>แช้มป์< | [ 18-03-2007 - 21:17:49 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() เปิ้ลมีใครออนเอ็มมั่งหว่า |
หมินหมิ่นหยู | [ 18-03-2007 - 21:19:03 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() มินชอบจำวรยุทธพวกนี้จำได้แต่อย่าฝึกมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ![]() |
>แช้มป์< | [ 18-03-2007 - 21:19:20 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ไม่รู้ว่าจะได้เล่นคอมอีกรึป่าวถ้าเราได้เล่นจะเข้ามา4ทึ่ม40นาทีนะครับ |
>แช้มป์< | [ 18-03-2007 - 21:19:43 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() ไปและเดี่ยวมาใหม่ |
>แช้มป์< | [ 18-03-2007 - 21:20:06 ] |
---|---|
![]() | ![]() ![]() เปิ้ลมีใครออนเอ็มมั่งหว่า |
เว็บนี้มีการใช้งาน cookie | ไม่ยอมรับ |