*-*-*-* รวมรูปซีรี่ย์ "ซอดองโย" ทางช่อง3กันบ้างนะค่ะ *-*-*-*

มาแล้นนน กลับมาแล้วว

ตอน 3
จางออกมาจากห้อง Mokrasu เดินมาในชายป่าลอบได้ยินทหารที่เตรียมการบุกสำนัก Daehaksa ประชุมกัน จางรีบมาบอก Mokrasu ให้รีบหนี ทหารเหล่านั้นถูกสั่งการโดย Buyeosun (หลานกษัตริย์ที่คิดล้มล้างบัลลังก์) เนื่องจากสำนัก Daehaksa เป็นพวกเดียวกับรัชทายาท ในที่สุดทหารบุกเข้ามาใน สำนัก Daehaksa Mokrasu พาอพยพพาผู้คนหนีทหารอย่างฉุกละหุก ระหว่างโดนไล่ล่า Mokrasu ล้มลงและตกลงในเนินเขา เมื่อฟื้นขึ้น เขาได้พบกับ Yungamo ซึ่งจากกันเป็นเวลานับ 10 ปี แต่ทั้งสองกลับอับจนในคำพูดไม่อาจเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้ Yungamo ได้มอบจี้ประจำตัวของเธอซึ่งแสดงฐานะว่าเป็นคนของสำนัก Daehaksa ให้กับจาง รวมทั้งสร้อยแสดงฐานะเจ้าชายที่กษัตริย์เคยมอบไว้ และสอนจางว่าต้องเป็นคนดีแต่ไม่ได้บอกฐานะอันแท้จริงแก่จาง จางออกเดินทางไปกับกลุ่มคนของสำนัก เพื่อหลบหนีไปยังแคว้น Silla ทาง Yungamo แต่แรกคิดตัดใจไม่ร่วมเดินทาง แต่แล้วพบว่าตนยังรัก Mokrasu อยู่ไม่เสื่อมคลาย จึงออกวิ่งตามไป แต่โชคร้ายโดนกลุ่มทหารที่ลอบตามมาและโดนธนูยิงเสียชิวิต ทั้งจางและ Mokrasu ต้องมอง Yungamo ล้มลงตายโดยช่วยอะไรไม่ได้เนื่องจากเรือได้ออกจากท่าไปแล้ว

เมื่อแฝงตัวมาอยู่ในแคว้น Silla จางยังคงเป็นเด็กซุกซนเช่นเดิม เขาพลาดพลั้งโดนจับไปพร้อมกับนักโทษหนีคดีคนหนึ่ง ทางสำนักจะช่วยจางจึงนำพระพุทธรูปทองมาติดสินบนเจ้าหน้าที่ Kim Sa Heum (เป็นเจ้าหน้าที่บ้านเมืองฝ่าย Silla) เห็นฝีมือแกะสลักอันละเอียดอ่อนของพระพุทธรูป ก็พยายามสอบถามที่มาและสาวถึง Maekdosu (คนของ Daehaksa ที่มาช่วยจางตอนโดนจับ) และ Mokrasu

ตอน 4
Mokrasu ใช้ปัญญาและฝีมือการช่างทำให้ ชาวสำนักรอดพ้นจากวิกฤตได้ เขาทำกระจกทองแดงฝีมือละเอียดมอบให้ Kim Sa Huem Kim Sa Huem ประทับใจในฝีมือของ Mokrasu จึงตกลงมอบตราประจำตัวชาว Silla ให้คนในสำนักทั้งหมด และยังส่งงานจากราชสำนัก Silla ให้ Mokrasu ด้วย โดยไม่รู้ว่า Mokrasu และพวกเป็นคนของสำนัก Daehaksa

จางซุกซนซ่อนตัวไปในตู้ที่จะนำเข้าไปส่งในราชสำนัก ที่นั้นเขาได้แอบเห็นเจ้าหญิงซันวาซ้อมการร่ายรำอยู่ ในที่สุดเจ้าหญิงจับได้ว่าจางแอบดูจึงเข้ามาจูบจางเป็นการกลั่นแกล้ง จางตกหลุมรักเจ้าหญิงทันที เขากลับมาที่สำนักด้วยอาการเมารัก จางได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ในสำนักชื่อ Bumsaeng ซึ่งสอนให้เขาทำขี้ผึ้งทาปากให้นำไปให้เจ้าหญิง จางรู้สึกนับถือ Bumsaeng มาก จางหาโอกาสเข้าวังไปหาซันวาแต่เขากลับโดนเธอแกล้งอีกโดยให้ทหารองรักษ์จับจางมาตีก้น
ที่ลอบเข้ามาในวัง จางอับอายมาก เขาแต่งเพลงขึ้นมาหวังจะแกล้งซันวากลับ โดยเนื้อเพลงมีข้อความต่อว่าเจ้าหญิงซันวา แต่แล้วก่อนที่จะทำตามแผนจางก็มาพบเจ้าหญิงเสียก่อน เจ้าหญิงเรียกจางว่า ซอดอง (แปลว่าเด็กขายเผือกมัน) ทั้งสองเริ่มสนิทสนมกัน จางสัญญาว่าจะเป็นคนดีตามที่ให้สัญญากับแม่ไว้ จางได้มอบจี้ประจำตัวสำนัก Daehaksa ของแม่ให้แก่เจ้าหญิง

สายลับของ Silla ที่แฝงตัวอยู่ในสำนัก Daehaksa ชื่อ Jungjak ลอบมาพบ Kim Sa Heum เพื่อบอกที่อยู่ของคน Daehaksa
Mokrasu แอบเห็นพอดี จึงรู้ว่า Jungjak เป็นสายลับ เขาต่อสู้และฆ่า Jungjak ตาย
ทางด้าน Kim Sa Huem พบศพ Jungjak เขาสังเกตเห็นจี้ประจำตัวของ Jungjak เหมือนกับของที่อยู่บนตัวจาง จึงคาดว่าจางต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง Daehaksa จึงสั่งให้ทหารสะกดรอยตามจาง
Mokrasu กลับมาเตรียมอพยพคนในสำนัก จางอาสาไปบอก Bumsaeng กับพวก ซึ่งเดินทางออกไปส่งของแล้วและไม่อยู่ที่สำนัก ในที่สุดทหารของ Kim Sa Huem ก็จับตัวจาง Bumsaeng และพวกได้ทั้งหมด ทหารทรมานเพื่อให้บอกที่ซ่อน Mokrasu และพวก แต่จางและ Bumsaeng ไม่ยอมพูด ในที่สุด Bumsaeng และพวกอีกสองคนทนทรมานไม่ไหวขาดใจตาย จางเองก็เกือบตาย เขาถูกทหารจับมาโยนทิ้งพร้อมกับศพอีก 3ศพ จางรู้สึกผิดมากที่ทำให้ Bumsaeng ต้องตาย สายตาของทุกคนใน Daehaksa ที่มองเขาก็เปลี่ยนไปนับจากนั้น ทุกคนล้วนโทษว่าเขาทำให้ Bumsaeng ต้องตาย

credit: english translation taken from everjohyunjae.co.kr
thai translation: gikgak

ตอน 5
เวลาผ่านไป 10 ปี จางยังคงโดนเมินเฉย ไม่เป็นที่ยอมรับของคนในสำนัก เนื่องจากเรื่องที่เขาเป็นสาเหตุทำให้เพื่อนร่วมสำนักต้องตาย Mokrasu มานั่งคิดทบทวนและคิดจะให้โอกาสจางลองสอบเพื่อเข้าสำนักดู จางทำข้อสอบได้แต้มเต็ม แต่ผู้คนพากันสงสัยว่าเขาโกง ในที่สุดความจริงเปิดเผยว่าจางใช้วิธีจดจำรูปภาพเทียบกับคำพูด จึงมีการลงคะแนนเสียงกันในสำนักก่อนที่จะรับเขาเข้าสำนัก
จางออกเดินทางเข้าเมือง Silla กับ Satekgiru (ศิษย์ร่วมสำนัก ? แสดงโดยริวจิน) ที่นั่นจางได้พบกับ Kim Sa Heum ศัตรูเก่าที่เป็นเจ้าหน้าที่ของ Silla ที่ทรมานพวกของจางจนตายเมื่อ 10 ปี ก่อน จางจำ Kim Sa Huem ได้ดี แต่ Kim Sa Huem จำจางไม่ได้
ทางด้านเจ้าหญิงซันวา เพื่อต้องการตามหาตัวจาง ได้ปล่อยข่าวผ่านทางเพลงที่จางเคยแต่งต่อว่าเจ้าหญิงเมื่อ 10 ปี ก่อน โดยว่าจ้างให้เด็กในตลาดร้องเพลงนั้น กษัตริย์ Jinpyung แห่ง Silla พระบิดาของเจ้าหญิงลงโทษเจ้าหญิงโดยไล่ออกไปนอกวังให้สำนึกผิดที่ทำเช่นนั้น ระหว่างทางออกจากวัง เจ้าหญิงลอบทิ้งจดหมายถึงจางเพื่อนัดเจอกันที่วัด Chung In โดยทิ้งจดหมายไว้ในที่ลับซึ่งมีเพียงสองคนเท่านั้นที่รู้

จางคิดลอบฆ่า Kim Sa Huem เป็นการแก้แค้นให้เพื่อนร่วมสำนัก เขาจ้างเด็กในตลาดให้วิ่งไปขวางขบวนของ Kim Sa Huem เพื่อเบี่ยงเบนเหล่าผู้ติดตาม และตั้งใจฉวยโอกาสเข้าสังหาร Kim Sa Huem แต่แล้วโอกาสก็หลุดลอยไปเนื่องจากก่อนลงมือ จางได้ยินเด็กในตลาดร้องเพลงที่เขาเคยแต่งให้เจ้าหญิงซันวาทำให้เขาชะงักไป ไม่ทันลงมือ

ตอน 6

ในที่สุดจางก็สามารถไขปริศนาในเพลงของเจ้าหญิงได้ และได้เดินทางไปอ่านจดหมายที่เจ้าหญิงทิ้งไว้ให้เขา เจ้าหญิงเดินทางไปยังวัด Chung In กับหลวงพ่อ Boryang ระหว่างทางได้หยุดพักที่โรงเตี้ยมที่เดียวกับจาง แต่ทั้งสองคลาดไม่ได้พบกัน
Satekgiru ศิษย์ร่วมสำนักของจางที่เดินทางมาด้วยกัน ลอบไปพบ Kim Sa Huem อีกครั้ง ที่แท้ Satekgiru เป็นชาว Silla และเป็นลูกชายของ Kim Sa Huem ที่แฝงตัวเข้ามาใน สำนัก Daehaksa เพื่อลักลอบเรียนรู้วิชาการจากสำนักและในที่สุดจะลอบทำลายสำนัก
ทาง Mokrasu ซึ่งอาศัยในแคว้น Silla และใช้ชื่อปลอมว่า Hanulchae ได้รับคำสั่งลับจากรัชทายาทแคว้น Baekjae ที่ชื่อว่า เจ้าชาย Aja ให้สร้างดาบที่แข็งแกร่งที่สุด จางแสดงความสามารถในการค้นคิดและตีดาบที่แข็งแกร่งได้ เขาดีใจมากที่ได้รับคำชมเชยจาก Mokrasu แต่คนในสำนักบางคนก็ยังไม่เลื่อมใสในตัวเขาเพราะติดใจเรื่องเก่าอยู่

จางออกเดินทางพร้อม Satekgiru และเพื่อนร่วมสำนักเพื่อส่งตัวอย่างดาบให้กับคนของรัชทายาท Satekgiru แอบส่งข่าวให้ทาง Silla ก่อน จางและพวกจึงโดนตรวจค้นอย่างหนัก จนเกิดวุ่นวายขึ้นที่ด่าน ในที่สุดจางพลัดหลงกับเพื่อนๆ ที่เดินทางมาด้วยกัน จึงเดินทางโดยลำพังไปพบกับคนของรัชทายาทเพื่อส่งมอบดาบ แต่แล้วกลับโดนคนของ Sun (หลานกษัตริย์ Baekjae ที่เป็นศัตรูของรัชทายาท) เข้าสวมรอยรับดาบไป โดยจางไม่รู้

ทางเจ้าหญิงซันวาเดินทางมาถึงวัด Chung In ที่วัดเจ้าหญิงเหลือบเห็นกล่องไม้ที่เพ้นท์ภาพลักษณะเดียวกับกล่องขี้ผึ้ง ที่จางเคยมอบให้ตนเมื่อ 10 ปีก่อน เจ้าหญิงสืบเสาะถึงช่างฝีมือผู้เขียนภาพเพราะแน่ใจว่าต้องเป็นคนกลุ่มเดียวกับจาง และลอบสะกดรอยตามชายผู้นั้นไป ชายผู้นั้นเป็นคนของสำนัก Daehaksa จริงๆ แต่เขาไหวตัวเสียก่อนว่ามีคนลอบตามมา จึงหลบหนีไปได้ ทิ้งให้เจ้าหญิงหลงทางอยู่ในป่า ขณะเดียวกันจางกำลังเดินทางกลับสำนักและได้ยินเสียงหญิงสาวร้องให้ช่วยในป่า

ตอน 7
เจ้าหญิงซันวาล้มระหว่างเดินหลงป่าจนข้อเท้าแพลง หมดสติไป แต่ผู้ที่มาพบเจ้าหญิงก่อนกลับกลายเป็น Satekgiru เขาช่วยพยาบาลและพาเจ้าหญิงไปส่งที่วัด ทางด้านจางเดินมาตามเสียงร้องที่ได้ยิน พบแต่ขวดยาดมของเจ้าหญิงตกอยู่จึงเก็บไว้กับตัว เมื่อจางกลับมาถึงสำนัก พบว่าตัวอย่างดาบที่ส่งมอบนั้นได้ไปตกในมือศัตรูแทนที่จะถึงรัชทายาท จางโดนสงสัยว่าเป็นไส้ศึก เขาโดนซ้อมอย่างหนักและโดนขับออกจากสำนัก วันรุ่งขึ้นจางเดินทางออกมาในป่ากลับพบเจ้าหญิงซันวาโดยบังเอิญ แต่ก่อนจะได้พูดคุยกัน จางก็หมดสติไปเนื่องจากบาดเจ็บจากการลงโทษ เจ้าหญิงช่วยพยาบาลจางจนฟื้น และต้มยาให้ จางกลับปฏิเสธไมตรีเนื่องจากยังคิดถึงความหลังที่ชาว Silla เป็นผู้สังหารแม่และเพื่อนร่วมสำนักของเขา จางกำลังจะแยกออกเดินทางไป แต่สาวใช้ของเจ้าหญิงวิ่งมาบอกว่าเจ้าหญิงล้มอยู่ที่โขดหิน จางรีบวิ่งไปช่วย เมื่อเห็นเจ้าหญิงสลบอยู่ก็กระโดดลงน้ำไปช่วยทันที ปรากฏว่าเป็นแผนแกล้งจางของเจ้าหญิง ทั้งสองอดหัวเราะไปด้วยกันไม่ได้ จึงใช้เวลาเที่ยวในป่าด้วยกันทั้งวันและระลึกความหลังอย่างมีความสุข

จางกำลังจะแยกทางกับเจ้าหญิง เมื่อมีนักเลงเข้ามารุมล้อม จางได้แสดงฝีมือการต่อสู้จนเป็นที่ประจักษ์แก่หัวหน้าองครักษ์ของเจ้าหญิง เจ้าหญิงจึงให้รับจางเข้าฝึกเป็นองครักษ์ของตนด้วย จางคิดหนักแต่ในที่สุดก็ยอมติดตามเจ้าหญิง เพราะคิดว่าทางสำนักไม่มีวันยอมรับความสามารถของเขา

ตอน 8
เจ้าหญิงซันวาและจางเดินทางผ่านมายังหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งแห้งแล้งมาก และพบว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองโดนชาวบ้านจับไว้เพราะคับแค้นใจที่โดนเรียกเก็บภาษี ทั้งๆ ที่ปลูกพืชผลไม่ได้ ชาวบ้านมารุมล้อมเจ้าหญิงและจางเพื่อจับเป็นตัวประกัน จางยื่นข้อเสนอต่อชาวบ้านว่าเขาจะช่วยปรับสภาพดินให้ภายใน 3 วัน ชาวบ้านฟังแล้วก็ไม่เชื่อจางและว่าพวกเขาพยายามปรับดินมา 3 ปีแล้วยังไม่เกิดผล แต่จางยังยืนยันและขอร้องให้เจ้าหญิงสัญญาว่าหากเขาทำสำเร็จ จะต้องไม่ลงโทษชาวบ้านที่จับเจ้าหญิงเป็นตัวประกันและจ่ายภาษีไม่ได้ หัวหน้าหมู่บ้านให้เจ้าหญิงเขียนจดหมายยกเลิกการส่งกำลังเสริมมาล้อมหมู่บ้าน เจ้าหญิงก็ตกลง จางลงมือค้นคิดทดลองปรับสภาพดิน ด้านทหารองครักษ์เจ้าหญิงได้รับกำลังเสริมมาคิดล้อมหมู่บ้านและเข้าช่วยเจ้าหญิง
ในที่สุดจางสามารถปรับสภาพดินได้สำเร็จ จังหวะเดียวกันกำลังเสริมก็บุกเข้ามาล้อมชาวบ้านและยิงธนูใส่ จางคุกเข่าขอร้องเจ้าหญิงให้รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับชาวบ้าน เขากล่าวถึงความหลัง 10 ปีก่อนที่เจ้าหญิงไม่รักษาสัญญากับเขาเรื่องดูแลรักษาสร้อยของแม่เขาอย่างดี ทำให้สร้อยไปตกในมือทหาร Silla และเป็นเหตุให้เขาและเพื่อน
โดนจับทรมาน และศิษย์ร่วมสำนักของจางต้องตายไปในที่สุด ทหารยังคงยิงเข้าใส่ชาวบ้านต่อ จางกล่าวว่า ?ท่านจะปล่อยพวกเขาตายเช่นนั้นหรือ แคว้น Silla ก็ไม่ต่างอะไรกับกรงสัตว์ ท่านพร่ำบอกว่าอยากเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับดิน ท้องฟ้า และท้องทะเล แต่หากไม่มีผู้คน การเรียนรู้จะมีประโยชน์อันใด? เจ้าหญิงได้ฟังดังนั้นจึงวิ่งเข้าขวางแนวลูกธนู ห้ามไม่ให้ทหารยิงใส่ชาวบ้านอีกต่อไป

หัวหน้าองครักษ์ไม่พอใจจางที่ทำให้เจ้าหญิงต้องตกอยู่ในอันตราย จึงคิดลงโทษโดยฆ่าจางเสีย แต่เจ้าหญิงห้ามไว้และว่านางต้องการให้จางมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อรับใช้แคว้น Silla เจ้าหญิงหันไปถามจางว่าจะยอมรับใช้ Silla หรือไม่ จางคิดถึงภาพที่แม่และศิษย์ร่วมสำนักโดนฆ่าตายโดยทหาร Silla จึงตอบปฏิเสธเจ้าหญิงไปและว่าเขามีที่ๆ ต้องกลับไป เจ้าหญิงทั้งผิดหวังและประหลาดใจกับคำตอบของจาง นางกล่าวว่า ?หากข้ายังต้องการเจ้าอยู่ นั่นก็คือทางเลือกเดียวของเจ้าที่ฟ้าลิขิตไว้แล้ว? จางตอบว่า ?สิ่งที่ฟ้าลิขิตไม่ใช่ทางที่คนเลือกเดินเพราะไม่มีทางอื่นไป หากแต่เป็นทางที่คนเลือกเดินแม้ว่าเขาอาจเลือกทางอื่นได้? จางขอร้องให้เจ้าหญิงปล่อยเขาไปตามทางที่เขาเลือก หัวหน้าองครักษ์เหนี่ยวคันธนูขึ้นหมายจะยิงจางที่เดินจากไป แต่เจ้าหญิงห้ามไว้

จางย้อนกลับไปที่อยู่ของชาวสำนัก Daehaksa เขาขอกลับมาอยู่ที่กระท่อมปลายหมู่บ้านโดยลำพังอีกครั้ง เจ้าหญิงยังตามมาหาจางอีก เมื่อพบจางนางใช้ธนูที่จางเป็นผู้สอนนางใช้ ไล่ยิงจางด้วยความโมโห และตามเซ้าซี้จางถึงที่พัก ทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่กระท่อมแห่งนั้น จางค้นคว้าหาความรู้โดยมีเจ้าหญิงคอยติดตามช่วยเหลือ
Mokrasu ได้รับสาส์นลับจากราชองครักษ์ของกษัตริย์ Baekjae แจ้งว่ากษัตริย์กำลังป่วยหนัก และ Sun หลานของกษัตริย์ที่กุมอำนาจทางทหารกำลังคิดยึดอำนาจ
ทางด้าน Giru แอบคัดลอกคัมภีร์ความรู้ของสำนักและลักลอบนำส่งกลับไปยัง Silla ขณะกำลังแอบลอกอยู่นั้น จางก็เข้ามาในห้องคัมภีร์เพื่อขอยืมหนังสือไปศึกษาที่กระท่อม Giru รีบหลบซ่อนตัวไม่ทันเก็บกระดาษที่ลอกไว้ บังเอิญจางได้หยิบคัมภีร์เล่มที่ Giru ลอกไปด้วย Giru กลัวความแตกจึงสะกดรอยตามจางไป Giru ได้ยินเสียงเจ้าหญิงดังออกมาจากกระท่อมจึงเกิดสงสัย ต่อมาเขายังตามมารื้อค้นหาคัมภีร์ที่กระท่อมของจาง เจ้าหญิงหลบออกไปด้านนอกพบจางกลับมากระท่อม จางดึงตัวเจ้าหญิงให้หลบที่พุ่มไม้ก่อนที่ Giru จะเห็น

ตอน 9

เจ้าหญิงรอดพ้นสายตา Giru อย่างหวุดหวิด ระหว่างที่จางนั่งคุยกับเจ้าหญิงอยู่นั้น คนของสำนักก็วิ่งวุ่นออกตามหาจางและ Giru เนื่องจากคัมภีร์ชุดที่เกี่ยวข้องกับการยารักษาโรคได้หายไปจากห้องคัมภีร์ จางรีบให้เจ้าหญิงหลบไป ปรากฎว่าคัมภีร์นั้น จางเป็นผู้ยืมมาศึกษา จางแสดงความสามารถอีกครั้งโดยเขาคิดสาเหตุของโรคที่กษัตริย์ป่วยอยู่ได้ รวมถึงวิธีรักษา Mokrasu ชมเชยจางและแอบปลื้มใจในความเฉลียวฉลาดของจาง ส่วนเพื่อนร่วมสำนักก็ค่อยยอมรับจางมากขึ้น จางเอากระดาษที่ Giru ลอกตำราไว้ไปคืน Giru และถามว่าเหตุใดต้องทำหลบๆ ซ่อนๆ ด้วย Giru รีบกลบเกลื่อนและยังถามกลับจางเรื่องที่มีหญิงสาวคนนอกอยู่ที่กระท่อมของจาง จางรีบกลับไปยังกระท่อมพบว่าเจ้าหญิงจากไปแล้ว
เจ้าหญิงซันวาถูกเรียกตัวกลับไปยังวังโดยพระบิดา กษัตริย์แห่ง Silla เจ้าหญิงขอกลับไปที่วัด Chung In อีกครั้งโดยอ้างว่าจะกลับไปศึกษาคัมภีร์กับเจ้าอาวาส เมื่อพระบิดาอนุญาตเจ้าหญิงก็รีบรุดกลับไปด้วยความยินดีที่จะได้แอบพบจางอีก ทั้งสองพบกันอีก จางบอกเล่าถึงความสำเร็จที่เขาค้นคิดวิธีรักษาโรค และว่าเจ้าหญิงเป็นผู้ให้แนวทางคิดแก่เขาจนสำเร็จ เจ้าหญิงนัดกับจางให้ไปพบที่วัด และพูดเป็นนัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง
ทางด้าน Giru แอบนำคัมภีร์ที่ลอกมาส่งมอบให้กษัตริย์ Silla Giru นั้นเป็นคู่หมายของเจ้าหญิงแต่เยาว์วัย โดยที่พระบิดาก็เห็นชอบด้วย

ทหาร Silla แอบเข้าบุกสำนัก Daehaksa หวังกวาดล้างผู้คน แต่ทางสำนักไหวตัวเสียก่อน จึงหลบหนีไปซ่อนตัวที่ถ้ำทัน หลังจากทหารถอนตัวไปทุกคนก็กลับมายังที่พักอีกครั้ง

จางครุ่นคิดถึงคำพูดเจ้าหญิง เขาคิดว่าทั้งสองแตกต่างกันเหลือเกินเนื่องจากเขาเป็นชาว Baekjae ส่วนเจ้าหญิงเป็นชาว Silla อีกทั้งความต่างทางฐานะ แต่ในที่สุดจางก็ตัดสินใจจะไปหาเจ้าหญิงตามนัด ระหว่างเดินทางไปที่วัดเขาพบบุคคลน่าสงสัย 2 คน จึงเข้าต่อสู้และจับตัวกลับมายังสำนัก ปรากฏว่าผู้ที่โดนจับมาคือ เจ้าชายองค์โตรัชทายาทของ Baekjae ชื่อว่าเจ้าชาย Aja และผู้ติดตาม

จางได้รับคำสั่งจาก Mokrasu ให้เดินทางไปกับเจ้าชาย Aja รัชทายาทเพื่อไปรักษากษัตริย์ Baekjae จึงไม่ได้ไปพบเจ้าหญิงตามที่นัด ระหว่างการเดินทางโดนลอบทำร้ายโดยฝ่ายของ Sun (หลานกษัตริย์ที่คิดยึดอำนาจ) ขณะที่ชุลมุนต่อสู้กับคนร้ายจางและรัชทายาททำสร้อยหลุดและสลับสร้อยกันโดยไม่รู้ตัว ภายหลังรัชทายาทพลิกดูสร้อยที่ตนเก็บมาพบว่ามีเลข 4 อยู่ด้านหลัง จึงรู้ว่าไม่ใช่ของตน เพราะของรัชทายาทต้องมีเลข 1 อยู่ (หมายถึงลูกชายคนที่ 1) รัชทายาทรู้สึกประหลาดใจเพราะไม่เคยรู้ว่ามีเจ้าชายองค์ที่ 4 อยู่ (สร้อยนี้เป็นสร้อยแสดงฐานะเจ้าชาย Baekjae ที่กษัตริย์เคยมอบให้แม่ของจาง)

จางและเจ้าชาย Aja รัชทายาทเดินทางมาถึงแคว้น Baekjae จางคิดแผนที่จะทำให้รัชทายาทกลับเข้าวังได้โดยปลอดภัย โดยเขียนตัวหนังสือลงบนหลังเต่าและเอาไปปล่อยในหนองน้ำในเมือง ตัวหนังสือเหล่านั้นเมื่อมารวมกันจะสื่อความหมายว่ามีการลอบฆ่าและยึดอำนาจ ชาวบ้านเมื่อเห็นเหตุการณ์ประหลาดต่างเล่าลือกันไปต่างๆ นาๆ ทางด้าน Sun ก็ไขปริศนาได้เช่นกันทำให้ไม่กล้าลงมือต่อกษัตริย์และรัชทายาทในเวลานี้

ตอน 10
แผนของจางประสบผลสำเร็จ Sun นั้นแต่เดิมส่งคนมาจะฆ่ารัชทายาท แต่แล้วตนเองกลับส่งกำลังสบทบบุกเข้ามาทำทีเป็นมาช่วยรัชทายาท และพาตัวกลับเข้าวังโดยปลอดภัย ทั้งนี้เพราะเกรงว่าหากลงมือขณะนี้ประชาชนจะกระด้างกระเดื่อง เนื่องจากมีข่าวลือหนาหูเรื่องยึดอำนาจ
รัชทายาทเข้าเฝ้ากษัตริย์และถามเกี่ยวกับสร้อยที่มีเลข 4 ด้านหลัง กษัตริย์ยอมรับว่ามีโอรสองค์ที่ 4 จริง พยายามตามหาตัวมานานแต่หาไม่พบ และถามรัชทายาทว่าได้สร้อยมาอย่างไร รัชทายาทว่าสร้อยโดนสับเปลี่ยนตอนต่อสู้กับทหารฝ่ายตรงข้าม จึงเข้าใจว่าเจ้าชายองค์ที่ 4 คงอยู่ในมือฝ่ายนั้นแล้ว และคาดว่าคงโดนฆ่าแล้ว กษัตริย์เศร้าใจมากและว่าเป็นกรรมเก่าของตนเองที่ทำให้ลูกชายต้องมาตายอีกคน
จางเตรียมการรักษากษัตริย์ตามที่ได้ศึกษามา จนอาการดีขึ้น จึงออกเดินทางกลับไปยังแคว้น Silla ระหว่างทางพบชาวบ้านป่วย จึงเสียเวลาหยุดช่วยเหลือ
ทางเจ้าหญิงยังคงรอคอยจางด้วยความหวังที่วัด เจ้าหญิงซ้อมยิงธนูวันละหนึ่งดอก และว่าจะรอจนกว่าลูกธนูจะหมดกล่อง องครักษ์มาแจ้งว่ามีชายผู้หนึ่งมาขอพบ เจ้าหญิงดีใจมากเพราะคิดว่าเป็นจาง แต่แล้วต้องผิดหวังเพราะเป็น Giru เจ้าหญิงถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความน้อยใจที่จางยังไม่มาตามนัด
จางรีบเดินทางมาหาเจ้าหญิงที่วัด ในจังหวะเดียวกันเจ้าหญิงก็ไปที่กระท่อมของจาง เพื่อจะคุยให้รู้เรื่อง ทั้งสองคลาดไม่ได้พบกัน จางจึงเขียนจดหมายสารภาพรักให้กับเจ้าหญิง โดยเหน็บไว้ที่ประตูที่พักเจ้าหญิงในวัด เนื้อความบอกว่าเขารู้ใจตนเองแล้วว่าจิตใจตรงกับเจ้าหญิง
วันรุ่งขึ้น Giru ซึ่งเขียนจดหมายสารภาพรักมาให้เจ้าหญิงเช่นกัน เดินทางมาที่วัดและพบจดหมายของจางอยู่ที่ประตู จึงหยิบมาอ่าน จึงได้รู้ว่าเจ้าหญิงมีชายคนรักอยู่แล้ว Giru แค้นใจมากขย้ำจดหมายของจางทิ้ง และได้แต่สงสัยว่าชายผู้นั้นเป็นใคร Giru คิดว่าหากไม่ใช่เขา ชายอื่นอย่าได้หวังจะครอบครองเจ้าหญิง
จางเดินทางกลับมาถึงสำนัก ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ทุกคนชื่นชมที่เขาทำงานสำเร็จลุล่วง Mokrasu แต่งตั้งให้จางเป็นนายช่างของสำนัก Daehaksa และให้ Giru คอยเป็นพี่เลี้ยงให้จาง
ระหว่างที่ชาวสำนักกำลังเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ให้จางอยู่นั้น Mojin (หญิงอาวุโสของสำนัก) ก็เข้ามาพร้อมทั้งภาพวาดของจางที่ชาวบ้านติดประกาศไว้ ความจึงปรากฏว่าระหว่างเดินทางกลับ จางได้ช่วยรักษาชาว Silla ที่ป่วยหนัก Mokrasu สอบสวนจาง เนื่องจากเป็นความผิดตามกฎสำนักที่ไปช่วยคนต่างแคว้น จางค้านว่าคนต่างแคว้นก็เป็นคนเหมือนกันและช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า เขาไม่อาจยอมรับกฎเกณฑ์เช่นนี้ได้ Mokrasu ให้จางยืนสำนึกผิด และว่าหากรับไม่ได้ก็อยู่ที่นี่ไม่ได้
เจ้าหญิงยังคงรอคอยจางด้วยความหวังที่ริบหรี่ นางเดินจงกรมที่วัดจนหมดแรง คนของ Giru ซึ่งได้รับคำสั่งให้เฝ้าสอดแนมคอยดูว่าใครเป็นชายคนรักของเจ้าหญิงไปรายงาน Giru เขารุดมาที่วัดและอุ้มเจ้าหญิงที่ล้มลงหมดแรงเข้าไปพยาบาล และสั่งลูกน้องให้ไปคาดคั้นความจริงเรื่องชายคนรักเจ้าหญิงจากหญิงรับใช้ หญิงรับใช้เผลอบอกไปว่ามีจริงและเจ้าหญิงเรียกชายผู้นั้นว่าซอดอง
Giru ได้รับจดหมายจาก Kim Sa Huem ผู้พ่อแจ้งว่าคนรักเจ้าหญิงนั้นเป็นผู้ที่รักษาโรคได้ ทำให้ Giru รู้ว่าที่แท้ซอดองของเจ้าหญิงก็คือจางนั่นเอง
จางยืนสำนึกผิดอยู่จนถึงเช้า Mokrasu กลับมาถามว่าจางจะยอมรับกฎสำนักหรือไม่ จางยังยืนยันหลักการของเขา Mokrasu จึงเอ่ยปากให้จางออกจากสำนักและให้กลับไปแคว้น Baekjae เพื่อช่วยงานรัชทายาท จางปฏิเสธและขอร้องจนในที่สุด Mokrasu ใจอ่อน
เจ้าหญิงซันวาตัดใจยอมกลับวัง และล้มเลิกการรอคอยจาง โดยคิดว่าจางคงตัดสินใจปฏิเสธไมตรี เจ้าหญิงคิดจะทิ้งตลับขี้ผึ้งทาปากที่จางเคยมอบให้ไว้ที่วัด นางกำลังจะเดินไปขึ้นรถม้าจากไป แต่แล้วเกิดเปลี่ยนใจย้อนกลับมาเอาตลับขี้ผึ้งติดตัวไปด้วย ขณะกำลังเดินกลับไปที่รถม้า จางก็ปรากฏกายขึ้นด้วยสีหน้าซีดเซียวเนื่องจากอดนอน โดนยืนลงโทษทั้งคืน จางกล่าวเพียงว่า ?ต้องให้ท่านรอนานแล้ว? เจ้าหญิงนิ่งไปชั่วขณะ แล้วโผเข้ากอดจางทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ ทั้งคู่ยืนตระกองกอดกัน Giru แอบมองด้วยสายตาริษยา