Download / Clip / Songs/ Live / MV ของ Super Junior ~ แบบ HQ ชัด # 2

Vvizgaya
[ 29-04-2009 - 16:43:22 ]







quote : DonGHaE_ELF Thai

หวาดดีพี่แอร์ พี่ลูกน้ำ นัท ครีม

หวัดดีจร้าน้องต๋อมม
Vvizgaya
[ 29-04-2009 - 16:43:45 ]









quote : Cream_love_SJ

quote : Vvizgaya

quote : Aiiir

ลูกน้ำมาพร้อมไฟล์

หวัดดีจร้า

รู้สึกเหมือนยังมีไฟล์อีกบานตะไทที่ยังไม่มีใครอัพเลย

ทักทายทุกคนด้วยน้า~

น้องนัท น้องเบียร์ น้องครีม น้องต๋อม

ออนนี่ไม่อยู่แล้วเหรอ แอร์โพสต์รูปคิมคิจนความหล่อคับบ้านขนาดเน้


อันยองค่ะพี่ลูกน้ำ

อันย๊อง อันยองจร้าน้องครีม
Aiiir
[ 29-04-2009 - 16:43:47 ]







quote : love kyukie

ทุกคนค๊าบ บ

นัทไปก่อนเน้อ

แล้วคืนนี้เจอกันจ้า อิอิ

บ๊า ย ยบาย ไปเร็วกี้จ๋า


แล้วมาเพ้อกันใหม่!!
Aiiir
[ 29-04-2009 - 16:44:59 ]







quote : Vvizgaya

quote : Aiiir

ลูกน้ำมาพร้อมไฟล์

หวัดดีจร้า

รู้สึกเหมือนยังมีไฟล์อีกบานตะไทที่ยังไม่มีใครอัพเลย

ทักทายทุกคนด้วยน้า~

น้องนัท น้องเบียร์ น้องครีม น้องต๋อม

ออนนี่ไม่อยู่แล้วเหรอ แอร์โพสต์รูปคิมคิจนความหล่อคับบ้านขนาดเน้


สงสัยมีตัวจริงให้ดูอยู่ข้างๆ เลยไม่สนใจรูปในคอม
Cream_love_SJ
[ 29-04-2009 - 16:47:02 ]







quote : love kyukie

ทุกคนค๊าบ บ

นัทไปก่อนเน้อ

แล้วคืนนี้เจอกันจ้า อิอิ

บ๊า ย ยบาย ไปเร็วกี้จ๋า


บายค่ะแ้ล้วเจอกันคืนนี้
Aiiir
[ 29-04-2009 - 16:47:57 ]







quote :
เส้นทางชีวิตของซีวอน

ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ว่าฐานะทางบ้านของสมาชิกรายนี้นั้นเป็นเช่นไร ดังนั้นถ้าหากจะเรียกเขาว่า คุณชาย ก็คงจะเรียกได้กันอย่างเต็มปากเต็มคำ เนื่องจากธุรกิจในครอบครัวของซีวอนนั้นค่อนข้างใหญ่ โดยมีธุรกิจหลักของทางบ้านเป็นห้าง Hyundai ซึ่งถ้าหากจัดอันดับความรวยแล้วล่ะก็ ถือว่าได้เป็นอันดับที่ 2 ของเกาหลี รองมาจาก Sumsung เลยทีเดียว

ซีวอนเป็นลุกชายคนโตของครอบครัว เวลาส่วนมากของเขาตั้งแต่เด็กจนโต มักจะอยู่กับแม่และน้องสาวเป็นส่วนมาก แม่ของซีวอนนั้นสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก เขาจึงเปรียบได้ว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวอีกคนหนึ่งแทนผู้เป็นแม่ เนื่องจากคุณพ่อนั้นก็ต้องมีภาระดูแลธุรกิจอยู่ เรื่องราวในบ้านส่วนใหญ่จึงมักจะหนีไม่พ้นมือของเขาคนนี้ จึงไม่แปลก ที่ทุกครั้งที่กลับจากต่างประเทศ เขาจะต้องรีบมุ่งหน้ากลับไปบ้านในทันที

ซีวอนเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเข้มงวด พ่อของเขาวาดหวังเอาไว้ ว่าต่อไปลูกชายคนเดียวคนนี้จะต้องรับช่วงต่อกิจการของครอบครัว แน่นอนว่าข้อนี้ เขาเองก็รู้ดีมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าคงหนีชะตากรรมข้อนี้ไม่พ้นอย่างแน่แท้ ซีวอนถูกส่งไปเรียนในโรงเรียนที่ค่อนข้างมีระเบียบตั้งแต่ยังเล็ก นิสัยของเขาจึงถูกขัดเกลามาให้เป็นสุภาพบุรุษ สุภาพ และมีระเบียบ ซึ่งค่อนข้างต่างจากเพื่อนๆร่วมวง ที่เฮฮา สบายๆ อะไรก็ได้

ด้วยการเลี้ยงดู ด้วยสภาพสังคม ทำให้ซีวอนค่อนข้างเป็นคนมีระเบียบ มีการวางแผนในเรื่องต่างๆอยู่เสมอ แต่แทนที่เขาจะถือเนื้อถือตัว ตามแบบของลูกคนรวยทั่วไป ซีวอนกลับมีนิสัยที่ติดดินอย่างเหลือเชื่อ

เพราะชีวิตที่สุขสบายจนเกินไป ชีวิตเขาถูกจำกัดไว้แค่เพียง บ้าน โรงเรียน ที่เรียนพิเศษ มันทำให้เขานึกอิจฉาเพื่อนๆ ที่สามารถใช้ชีวิตวัยรุ่นได้ตามต้องการ เขาอยากมีชีวิตเหมือนคนอื่นๆ ชีวิตแบบคนทั่วๆไป ด้วยเหตุนี้เอง ซีวอนจึงได้แอบไปสมัครทำงานที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ซึ่งแน่นอน หน้าที่ของเด็กปั๊มคือการให้บริการต่างๆแก่ลูกค้า เขามีความสุขมากที่ได้ใช้ชีวิตแบบนั้น แต่ก็ทำได้แค่เพียง 4 วัน เพราะในวันที่สี่ ระหว่างที่เขาทำงานอยู่นั้นเอง ปากเจ้ากรรมก็ดันไปขอให้ลูกค้าลดกระจกลง และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อบุคคลที่นั่งในรถนั้นคือ พ่อผู้เข้มงวด ของเขาเอง

ซีวอนจึงต้องลาออกจากงานในวันนั้น และถูกกักบริเวณในวันต่อมา รวมถึงถูกสอดส่องพฤติกรรมแทบจะทุกฝีก้าว

แต่แม้ว่าทางบ้านจะเข้มงวดเพียงใด ก็ยังเปิดโอกาสให้เขาได้ทำอะไรในสิ่งที่ต้องการตามที่พ่อและแม่เห็นว่าสมควร ซีวอนเริ่มหัดเรียนตีกลอง เล่นเปียโน และกีตาร์ตั้งแต่เด็ก และก็ยังหัดว่า้ยน้ำ เรียนเทควันโดมาพร้อมๆกัน ความสามารถในด้านกีฬาของเขาค่อนข้างอย่ในระดับสูง จนสอบเทควันโดได้ในระดับสายดำ ดั้งที่ 5 นอกจากนั้นเขาก็ยังเคยแข่งขันระดับประเทศ และได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งมาแล้ว แน่นอนว่า ความสามารถด้านเทควันโดของซีวอนนั้นมากพอที่จะสามารถเป็นครูสอนเทควันโคเลย ทีเดียว และนอกเหนือจากนี้ เขายังเล่นบาสเก็ตบอลเก่งมาก ถึงขนาดเคยเป็นนักกีฬาของโรงเรียนมาแล้วด้วย

อนาคตของเขาถูกวางไว้ตั้งแต่ต้น ซีวอนมีโครงการจะไปเรียนต่อต่างประเทศ หลังจากที่เข้าเรียนในชั้นมัธยมปลายแล้ว ดังนั้น เขาจึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อจะต้องไปใช้ชีวิตในต่างประเทศเอาไว้ แต่ในวันเปิดภาคเรียน วันแรกที่เขาเป็นนักเรียนไฮสคูลนั่นเอง ระหว่างที่เดินออกจากโรงเรียนเพื่อไปทานกัมจาทังกับเพื่อนๆ ก็ได้มีแมวมองเดินเข้ามาติดต่อเขา พร้อมกับให้นามบัตรไว้

ก่อนหน้านั้น มันเคยเป็นเพียงความคิดเล่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นในหัว ว่า "ถ้าเขาเป็นดารา มันจะเป็นยังไงนะ" แต่มันก็ได้หายออกไปจากความคิดของเขานานแล้ว ... และก็เริ่มกลับเข้ามาอีกครั้งเมื่อได้รับนามบัตร ซีวอนติดต่อไปยังผู้ที่ให้นามบัตรแก่เขามา และเริ่มที่จะจริงจังกับการเป็นดาราขึ้นมาแล้ว

ซีวอนได้รู้ถึงกำหนดการที่จะต้องเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นอย่างดี เขารู้ว่าพ่อของเขาเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่อยู่ และอะไรต่อมิอะไร เหลือเพียงแค่กำหนดวันออกเดินทางเพียงเท่านั้น

แคนาดา 4 ปี ... ตามด้วยญี่ปุ่นอีก 4 ปี ... เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วท้องไส้ของเขาก็ปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก

แต่เหมือนกับโชคเข้าข้าง เมื่อช่วงนั้นมีการเข้มงวดเรื่องวีซ่ามากขึ้น และก่อนเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ก็ยังจำเป็นที่จะต้องกลับมาที่เกาหลีอีกครั้งเพื่อเรียนต่อให้จบชั้นมัธยม ปลายของที่เกาหลีด้วย (ไม่งั้นจะกลับมาเรียนต่อในมหาลัยที่เกาหลีไม่ได้ หรือไงนี่แหละ) เพราะเหตุนี้ การเรียนต่อต่างประเทศของเขาจึงได้ถูกยืดเวลาออกไป

และครั้งนี้ ซีวอนได้เดินเข้าไปเพื่อขอร้องพ่อของเขาอีกครั้ง แน่นอนว่ายังได้รับคำยืนยันเช่นเดิมว่า "ไม่อนุญาต" แต่เพราะความตั้งใจจริงของเขา และเขาได้ให้คำสัญญากับพ่อเอาไว้ ว่าจะทำตามที่พ่อต้องการอย่างแน่นอน แต่ว่าเขาขอเลือกเส้นทางนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง ... อย่างน้อยก็ขอให้ได้ลองกับมันดูสักตั้ง พ่อเขาจึงยอมใจอ่อนให้ แต่มีข้อแม้ว่า สิ่งที่เขาเลือกนั้นคือความรับผิดชอบของเขาทั้งหมด จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับทางบ้าน และ เขาจะต้องดูแลความประพฤติตัวเองให้ดี ไม่เช่นนั้น จะต้องออกจากวงการบันเทิง และเดินทางไปเรียนต่อตามสัญญาทันที

เป็นเวลานับแรมปี ที่ซีวอนพยายามขอร้องทั้งพ่อและแม่ และในที่สุดก็ได้รับอนุญาตมาด้วยความยากลำบาก และได้ออดิชั่นผ่านเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดจนได้

แต่เขาต่างจากสมาชิกในวงคนอื่นๆตรงที่ ส่วนมากต่างพยายามเพื่อความฝัน ความกลัวของพวกเขามีแค่ "กลัวจะไม่ได้เดบิวต์" แต่สำหรับซีวอนแล้ว เขากลัวทั้งเรื่องการไปเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งเรื่องที่พ่อนั้นไม่ได้อนุญาตด้วยความเต็มใจ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตในวงการบันเทิง และไหนจะกลัวเรื่องไม่ได้เดบิวต์อีก นั่นคือภาระอันยิ่งใหญ่ของเขา

เพราะซีวอนต้องการที่จะพิสูจน์ให้พ่อของเขาได้เห็นว่า เขาเลือกเส้นทางที่ถูกแล้ว และเขาก็ทำได้อย่างที่เขาเคยบอกเอาไว้จริงๆ ... เขาต้องการให้พ่อยอมรับ และปล่อยให้เขาเลือกทางเดินเองเสียที

หนึ่งปีต่อมา หลังจากที่ได้เข้ามาในฐานะศิลปินฝึกหัด ซีวอนถูกส่งไปยังประเทศจีนเพียงลำพัง ทั้งๆที่เขาไม่รู้อักษรจีนแม้สักตัวเดียว กว่าเขาจะคุ้นเคยกับภาษา และแยกแยะคำได้ก็กินว่าเป็นกว่าหนึ่งเดือน เขาพยายามเรียนรู้ภาษาจีนอย่างสุดกำลังที่มี เพื่อต้องการอยู่รอดในจีนให้ได้ ... พ่อของเขาสอนเอาไว้เสมอ ว่าการทำอะไรต้องทำให้เต็มที่ ทำให้มั่นใจว่าทำได้ แต่ถ้าหากทำไม่ได้ เรา็ก็ได้รู้ ว่าเราทำมันเต็มที่แล้ว

ซีวอนใช้ชีวิตอยู่ที่จีนกว่า 6 เดือน จึงได้กลับมายังเกาหลี

และเมื่อกลับมา หลากคำพูดจากคนรู้จักของพ่อ ที่ต่างก็ทำงานเป็นผู้บริหารระดับสูง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเขาควรตะล้มเลิกความคิดที่จะเป็นดาราที่ไร้สาระ แล้วหันมาสานต่อธุรกิจครอบครัวจะดีกว่า ... คำพูดเหล่านั้นมันทำให้เขาโกรธ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และมันก็ไม่ได้ทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจที่มี มันกลับเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เขาพยายามมากขึ้นกว่าเก่าเป็นเท่าตัว

หลังจากนั้นไม่นาน ซีวอนก็ได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดง ด้วยละครเรื่องแรก 18-29 แม้จะไม่ใช่บทที่สำคัญอะไร แต่เขาก็ประทับใจกับงานชิ้นนี้มาก ซีวอนเปิดดูสมุดบัญชีแล้วอมยิ้มให้กับตัวเองอยู่หลายครั้ง ... มันคือเงินก้อนแรกที่เขาหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ไม่ใช่เงินที่แบมือขอจากทางบ้านมา .. และเงินก้อนนั้น เขาก็นำไปบริจาคให้กับโบสถ์ที่เขาไปประจำ

เมื่อข่าวเรื่องที่เขานำเงินก้อนแรกในชีวิตไปบริจาคให้กับโบสถ์รู้ถึงหูของ พ่อ มันทำให้ซีวอนแทบจะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะมันเป็นวันที่พ่อเอ่ยปากบอกว่า ภูมิใจในตัวของเขา และบอกให้เขารับผิดชอบในงานให้ดี พยายามให้มากขึ้นจากเดิม ... มันยากนัก ที่พ่อของเขาจะเอ่ยปากชมใคร

และเมื่อได้รับกำลังใจที่เปี่ยมล้นจากพ่อแล้ว ซีวอนก็ได้ก้าวต่อด้วยความมั่นใจที่มากขึ้นจากเดิม เขาไม่ต้องกังวลกับการเรียนต่อ ไม่ต้องกังวลเรื่องที่พ่อคัดค้านอีกต่อไป แต่ลึกๆแล้ว เขาก็ยังคงรู้ตัวดี ว่าอย่างไรก็ตาม ในอนาคต เขาก็ต้องกลับไปรับช่วงต่อจากพ่อ และบริหารกิจการของครอบครัว ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่า ซีวอนพยายามที่จะควบคุมตัวเองไว้ ในเวลาที่เพื่อนๆ สมาชิกในวงนั้นต่างเล่นอะไรที่บ้าบอคอแตก ก็มักจะมีแค่เขาเท่านั้นที่อยู่นิ่งๆ รักษามาดเจ้าชายอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนทำให้ฮยอกแจนึกรำคาญแทน

นั่นไม่ใช่เพราะซีวอนไม่อยากจะเล่น หรือพยายามเก็กให้ดูดี แต่เพราะความเป็นจริงแล้ว เขาไม่สมควรที่จะไปเล่นอะไรแบบนั้นมากกว่า เพราะสายตาที่จับจ้องเขาอยู่ไม่ได้มีแค่แฟนคลับ หรือคนที่ชื่นชอบผลงานของเขาเท่านั้น แต่ยังมีคนรู้จักของพ่อ แม่ รวมไปถึงอีกหลายๆคนที่ร่วมธุรกิจกับทางบ้านของเขาอยู่ แน่นอนว่าเขาต้องรักษาภาพพจน์ของตัวเองเอาไว้ เพราะเกรงใจพ่อในส่วนหนึ่ง และในอีกส่วนก็คือ เขาต้องพยายามทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือ เพราะมันอาจจะส่งผลต่อการทำงานของเขาในภายภาคหน้าได้

เมื่อซีวอนได้รู้ว่าเขาจะต้องเดินทางกลับไปยังประเทศจีนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อร่วมถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง Muk Gong เขาก็เริ่มที่จะมาคลุกคลีอยู่กับฮันคยองมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพราะต้องการฝึกภาษาจีนของเขาให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้สื่อสารกับคนในกองถ่ายได้เข้าใจ และด้วยความที่เขาเป็นคนมีน้ำใจ จึงมักจะคอยช่วยเหลือทั้งฮันคยองและคิบอมอยู่เสมอๆ เพราะเขาเข้าใจทั้งคู่ดี ที่ต้องจากบ้านมาอยู่ในต่างประเทศโดยปราศจากครอบครัว เพราะตัวของซีวอนเองนั้นก็เคยเผชิญชะตากรรมนี้มาก่อนหน้า ทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดี ดังนั้น อะไรที่เขาจะสามารถช่วยเพื่อนทั้งสองได้ ซีวอนก็จะไม่รีรอที่จะทำมันเลย

กับเพื่อนๆในวง ซีวอนนั้นมีความจริงใจให้กับทุกๆคน แต่ติดตรงที่ว่า การอยู่ร่วมกันในหมู่มาก จึงเกิดการชิงดีชิงเด่นกันบ้าง แต่ก็มักจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ไร้สาระกันเสียมากกว่า เช่น การแย่งขนม งอนเวลาที่เพื่อนเล่นเกมแล้วไม่เรียก แข่งกันทำอะไรต่อมิอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกับงาน ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเป็นการงอนกันในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เนื่องด้วยซีวอนมักจะให้ความสำคัญกับเพื่อนๆ สนิทกับเพื่อนๆในวงทุกคน และเขาก็อยากที่จะเป็นคำสำคัญของเพื่อนๆเช่นกัน ดังนั้น เวลาที่มีใครมองข้าม หรือลืมเขาไป ซีวอนก็จะออกอาการงอนทันที และแน่นอนว่าคนที่มักจะโดนบ่อยๆก็คือ ฮีชอลและฮันคยอง เพราะแค่เพียงลืมโทรศัพท์หาเขาเพียงเท่านั้น เขาก็จะงอนและเริ่มทำตัวงอแง (ซะงั้นน่ะ)

Dra-cool @ SJ : Flying Together Club
Aiiir
[ 29-04-2009 - 16:50:14 ]







นักโทษฟิลิปปิ้นส์เต้น Cover ศิลปินเกาหลีชื่อดัง
BIGBANG (lie) & WG (tell me)



แหม่....ตอนนี้พวกเขากำลังฝก Sorry Sorry กันอยู่เปล่าน่ะ
Vvizgaya
[ 29-04-2009 - 16:52:35 ]







[SOHU CAM] Kibum Dance Practice 1.flv

Download~*
Host :: upload.one2car
Download~**
Host :: upload thai
จิ้มๆไปดูคิมคิกัลล
ขอบใจสำหรับภาพแคปนะจ๊ะแอร์
Credit :: gx010010的blog @sohu.com + MinHae@s-u-j-u.net
Re-up :: Vvizgaya
Vvizgaya
[ 29-04-2009 - 16:54:21 ]







quote : Aiiir

นักโทษฟิลิปปิ้นส์เต้น Cover ศิลปินเกาหลีชื่อดัง
BIGBANG (lie) & WG (tell me)



แหม่....ตอนนี้พวกเขากำลังฝก Sorry Sorry กันอยู่เปล่าน่ะ

กร๊ากกกก ก็เป็นไปได้นะ
Vvizgaya
[ 29-04-2009 - 17:00:21 ]







รูปนี้ไปอัดสตาร์คิงล่าสุด (อีกแล้วว)

เหมือนจะมีพี่ทึก พี่เย่ ดงดง มินนี่ ฮยอกกี้
**มินน ผมเปลี่ยนไป๋



Cr:As tagged,onlysungmin,wordpress
mzbr4
[ 29-04-2009 - 17:04:16 ]







quote : Vvizgaya

รูปนี้ไปอัดสตาร์คิงล่าสุด (อีกแล้วว)

เหมือนจะมีพี่ทึก พี่เย่ ดงดง มินนี่ ฮยอกกี้
**มินน ผมเปลี่ยนไป๋


Cr:As tagged,onlysungmin,wordpress



มินนี่ผมเปลี่ยนไป๋ จริงๆด้วย
Aiiir
[ 29-04-2009 - 17:04:27 ]







quote : Vvizgaya

รูปนี้ไปอัดสตาร์คิงล่าสุด (อีกแล้วว)

เหมือนจะมีพี่ทึก พี่เย่ ดงดง มินนี่ ฮยอกกี้
**มินน ผมเปลี่ยนไป๋


Cr:As tagged,onlysungmin,wordpress


แต่ความน่ารัก เต็มร้อย~!!!


**หน้าม้าแอ๊บแหว่างเปล่าน่ะ สไตล์ลิสทำอะไรหนูมินนนนนนนนน
Aiiir
[ 29-04-2009 - 17:05:22 ]







quote : Vvizgaya

[SOHU CAM] Kibum Dance Practice 1.flv

Download~*

จิ้มๆไปดูคิมคิกัลล
ใครรู้ตัวว่าน่ารักแคปภาพให้โด้ยย

Credit :: gx010010的blog @sohu.com + MinHae@s-u-j-u.net
Re-up :: Vvizgaya


อะ แน่น๊อนนนนน

แต่ตอนนี้ข้อยพเจ้าอยู่ที่ทำงานแม่

เวลาเดิมค่ะ กลับถึงบ้านแล้วแคปให้
Aiiir
[ 29-04-2009 - 17:06:26 ]







quote :
เส้นทางชีวิตของชินดง

ดงฮี เป็นเด็กที่รักการเต้น และมักจะชอบทำให้คนอื่นหัวเราะอยู่เสมอๆ เขาชอบที่จะเต้นมาตั้งแต่สมัยประถม เขาได้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะไปเรียนเต้นด้วยกัน แต่ในใจลึกๆ ของเขาส่วนหนึ่งก็คิดว่า อยากจะเป็นนักแสดงตลก

เขาค่อนข้างที่จะเป็นที่รู้จักในบรรดานักเรียนแถบนั้น เพราะชื่อของ ดงฮี นั้นโด่งดังไปถึงโรงเรียนอื่น แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นชายทั่วไป ที่มีแฟน และใช้ชีวิตธรรมดาๆ

แต่ด้วยความที่ดงฮีนั้นเป็นคนที่มีความพยายามค่อนข้างสูง เมื่อใดที่เขาต้องการอะไรเป็นพิเศษ ก็จะทำงานพิเศษเพื่อหาเงินไปซื้อเอง แม้ว่างานที่เขาทำนั้นจะหนัก และเป็นงานที่ใช้แรงงานจนมือแทบพัง แต่เขาก็ยังทำมันด้วยความมุ่งมัน จนได้เงินมาซื้อโทรศัพท์มือถือด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

ในวันหนึ่งของช่วงไฮสคูล ปี 1 รุ่นพี่ที่รู้จักการได้ขอให้เขาไปอัดรายการแทน เนื่องจากรุ่นพี่คนนั้นดันไม่สบายในวันที่มีการอัดรายการ ซึ่งรุ่นพี่คนนั้นได้เต้นเป็นแบ็คให้กับศิลปิน จึงได้โทรศัพท์มาไหว้วานให้ชินดงไปทำหน้าที่แทนเขา ...ด้วยเหตุนี้ ดงฮีจึงต้องเดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์แถวยออึยโอ เพื่อเต้นประกอบเพลงของฮยอนซองบนเวที

หลังจากนั้น ดงฮีก็เริ่มตั้งใจฝึกซ้อมเต้นอย่างจริงจัง พร้อมกับเดินสายเต้นเป็นแดนเซอร์์ตามรายการทีวีต่างๆของทั้งสถานีของเคเบิ้ล ทีวี สถานี KBS รวมไปถึง J Station และ ในมิวสิคคาราโอเกะต่างๆ จนกระทั่งในช่วงฤดูร้อนของชั้นไฮสคูลปี 3 เขากับเพื่อนต้องการที่จะหาเงินไปเที่ยวทะเลกัน จึงได้เข้าร่วมแข่งขันเต้น เพราะเพียงแค่ต้องการเงินรางวัลเพื่อไปเที่ยวเท่านั้น

แต่ผลจากการเต้นครั้งนั้นเอง ที่ทำให้เขาได้รับนามบัตรใบหนึ่งมา ... มันเขียนไว้ว่า "SM Entertainment"

ดงฮีค่อนข้างที่จะตื่นเต้นกับนามบัตรที่ได้มา เขาคิดว่ามันคือโอกาสที่ดีมาก แต่ก็ยังคงลังเลใจอยู่ แต่ท้ายที่สุด หลังจากที่คิดอยู่นานสองนาน เขาก็ตัดสินใจที่จะไปลองออดิชั่นดู

.. เขาก็ออดิชั่นไม่ผ่านในรอบแรก

ดงฮีกลับมาฝึกซ้อมอย่างหนักอีกครั้ง โดยหวังว่า ออดิชั่นคราวหน้าจะมีรายชื่อของเขาที่ผ่านเข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัด

.. แต่การออดิชั่นครั้งที่สอง ก็ยังคงสอบตก

มันทำให้เขากลับมาคิดเป็นอย่างหนัก ว่าในตอนที่ออดิชั่น เขาทำอะไรลงไป? .. ในการออดิชั่นครั้งที่ 3 ครั้งที่เขาคิดว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมาออดิชั่น และครั้งนี้ ดงฮีได้ตัดสินใจทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ ทั้งเต้น ร้องเพลง แสดงมุขตลก รวมถึงการแสดง เขาได้ทำมันอย่างเต็มที่ ... ในตอนที่ถึงเวลาประกาศผล เขาหลับตา กำมือแน่นด้วยความกลัว ... กลัวว่าจะสอบตกเป็นครั้งที่สาม และชีวิตในเส้นทางนี้ของเขาคงจบลง ณ ตรงนี้ ... แต่แล้วก็มีชื่อเขาที่ผ่านการออดิชั่น

ในขณะนั้น ดงฮีอายุ 20 ปีแล้ว ... เขาจึงสามารถที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง รวมถึงการเซ็นสัญญากับทางบริษัท ... เขาไม่เคยบอกที่บ้านเรื่องการไปออดิชั่น และก็ได้โทรกลับไปบอกแม่ ตอนที่ได้เซ็นสัญญาไปแล้ว

แม้ว่าแม่ของเขาจะยังกังวลกับเส้นทางที่ลูกชายคนนี้เลือก แต่ว่าทั้งสองก็ยังมีความเชื่อมั่นในตัวของลูกชาย ทั้งพ่อและแม่ของดงฮีจึงได้ยอมที่จะตามใจเขาได้ไม่ยาก และสนับสนุนที่จะให้เขาเดินตามเส้นทางที่ฝันนั้นต่อไป

ครั้งแรกที่เขาก้าวเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด ดงฮีค่อนข้างจะประหม่า แม้ว่าเขาจะเข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่ครั้งนี้มันทำให้เขากังวลมาก ด้วยตำแหน่งที่เขาได้มานั้นคือ Best Gag ... ไม่ใช่ด้วยการร้องเพลงหรือเต้นเหมือนคนอื่นๆ หนำซ้ำก็ยังมาเป็นคนท้ายๆ ทั้งที่คนอื่นนั้นฝึกหัดด้วยกันมาแล้วเป็นปี สองปี หรือมากกว่านั้น มันจึงทำให้เขาต้องพยายามอย่างมาก เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นที่ 1 มาจากหลายๆที่ด้วยกันทั้งนั้น

และทางบริษัท ก็ได้มีการทดสอบมากมาย ... รวมทั้งการให้แสดงบทบาทสมมติอย่างกระทันหัน ... แม้ว่าเขาจะงัดมุขออกมาแสดงสักเท่าไหร่ แต่สุดท้าย มันก็กลายเป็นความน่าเบื่อสำหรับตัวเขา เพราะในแต่ละวันก็มีแค่การฝึก การฝึก และการฝึก

ดงฮีฝึกหนักมาก หลายต่อหลายครั้งที่เขาโต้รุ่งจนกระทั่งเช้า และไปหลับเอาบนรถไฟ ... แล้วก็นอนอยู่บนนั้นจนกระทั่งรถวนกลับมาที่เดิมรอบแล้ว รอบเล่า

และในที่สุด ดงฮีก็ได้เดบิวต์ในฐานะศิลปินวงซูเปอร์จูเนียร์ร่วมกับเพื่อนๆ และเขาจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนชื่อ มาเป็น ชินดง เนื่องจาก ชื่อ ดงฮี ของเขานั้นดันไปคล้ายกับเพื่อนอีกคนในวง ซึ่งก็คือ ดงแฮ ... และนั่นมันอาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ ถ้าหากมีชื่อสมาชิกในวงเขียนและออกเสียงต่างกันแค่เพียงเล็กน้อยแบบนั้น

ในการฟอร์มวง ดงฮีได้ช่วยอะไรหลายๆอย่างอย่างมากมาย เนื่องจากเพราะเขาเคยเป็นแดนเซอร์มาก่อน และเพราะคุ้นเคยกับการเต้นมานาน จึงช่วยคิดท่าเต้นให้กับวง และในการแสดงแต่ละครั้งของพวกเขา ท่าเต้นที่พวกเขาเต้นบนเวทีนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากหัวคิดของดงฮีผู้นี้นั่นเอง

ในวันที่มีกำหนดเปิดตัววง ซูเปอร์จูเนียร์ ซีวอนได้มาบอกกับเขาถึงเรื่องรูปที่ถ่ายออกไปนั้นได้เผยแพร่ไปทางอินเตอร์ เน็ตแล้ว วันนั้นเขาจึงรีบกลับไปเพื่อดูรูปเหล่านั้นด้วยความดีใจและตื่นเต้น ... แต่ผลมันกลับไม่เป็นดังที่คาดไว้

หลากความคิดเห็นที่มีต่อเขานั้นช่างทำร้ายจิตใจของดงฮีสิ้นดี แทบจะทุกคนให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก มากมายที่วิจารณ์เรื่องหน้าตา รูปร่าง ของเขา จากที่ไม่เคยหวั่นไหวต่อคำพูดของคนอื่นง่ายๆ แต่วันนั้นมันทำให้เขารู้สึกแย่และเจ็บปวดมากจนไม่อยากที่จะเปิดอินเตอร์ เน็ตอีกเลยด้วยซ้ำไป และจากวันนั้นเอง ที่เขาพยายามอย่างสุดความสามารถ ที่จะทำให้ผู้ชมยอมรับเขา และลบคำสบประมาทที่มีมาออกไป ...เขากลายเป็นดงฮีที่ชอบเต้น รักที่จะสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง และยังไม่ลืมความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดงตลก

ความสามารถของเขา ใช่มีแค่นี้ เพราะหลังจากที่คลุกคลีอยู่กับเพื่อนๆแล้ว เขาก็พบว่า ตัวเอง อึนฮยอก และฮีชอลนั้นมีความสามารถที่คล้ายๆกัน นั่นคือการแร็พ จึงได้ช่วยกันลองเขียนท่อนแร็พขึ้นมา และมันก็ถูกนำไปใช้ในเพลงต่างๆ เริ่มตั้งแต่ Show me your love จนกระทั่งมาถึงเพลงในอัลบัมต่อๆมา

แต่ในความเฮฮาร่าเริงของดงฮี เขาเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บความรู้สึก เพราะเขาไม่อยากให้คนรอบข้างต้องเป็นทุกข์เพราะเขา เขารักทุกๆคน และหวังดีกับทุกๆคนด้วยใจจริง ดังนั้น เมื่อใดที่เขามีปัญหา ก็มักจะยิ้มอยู่เสมอๆ และพยายามทำตัวเฮฮา และหาเรื่องตลกมากลบเกลื่อน เขารักแฟนเพลง และมักจะเป็นคนแรกที่มองเห็นแฟนเพลงเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ... ทั้งๆที่ง่วง ทั้งๆที่สมาชิกคนอื่นๆแทบหมดเรี่ยวแรง และไม่มีใครสักคนที่มีอารมณ์จะลุกมาหยอกล้อกับแฟนเพลงที่ตามไปดูพวกเขา แต่จะไม่มีเหตุการณ์นั้นกับดงฮี เพราะสายตาของเขาจะสอดส่ายไปยังแฟนคลับเสมอ และเพราะจะยิ้มทักทายทุกครั้งที่มีคนยิ้มให้เขามา แม้ว่าร่างกายเขาจะอ่อนล้าก็ตาม

แม้ว่าในแต่ละวัน จะดูเหมือนว่าเขาเอาแต่ทำตัวบ้าๆ บอๆ และเล่นไปวันๆ แต่อันที่จริงแล้ว เขาใส่ใจ และห่วงใยเพื่อนๆในวงทุกคน เขาสามารถเข้ากับคนได้ง่าย และนั่นเอง ที่ทำให้เขาค่อนข้างจะสนิทกับทุกๆคนในวง ...ในคืนที่เกิดอุบัติเหตุ ดงฮีบาดเจ็บน้อยที่สุด เขาเป็นคนแรกที่พยายามจะช่วยเพื่อนๆออกมาจากซากรถ เมื่อมีคนมาช่วย เขาก็จะลุกเดินไปหาเพื่อนๆทุกคน แล้วกุมมือเอาไว้ พร้อมกับให้กำลังใจ ... คล้ายกับว่าเขาไม่เป็นอะไร และมีสติดี

แต่ในความเป็นจริง สภาพจิตใจของดงฮีในตอนนั้นย่ำแย่เกินจะบรรยาย เขารับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น รุ้สึกเจ็บปวดเมื่อได้เห็นสภาพของเพื่อนที่นอนหมดสภาพอยู่ข้างทาง สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ภาพรถที่พังยับเยิน ร่างของคยูฮยอนที่แน่นิ่ง อิทึกที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และฮยอกแจที่เดินกะเผลกๆ ... เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับพวกเขาเอง

ในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ดงฮีฟุ้งซ่านเกินที่จะทนอยู่ในสภาพที่ปกติได้ เขาตัดสินใจเดินทางออกจากโซล เพื่อหนีปัญหา เพื่อที่จะหาที่เงียบๆอยู่คนเดียว และได้ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง เขาไม่ต้องการที่จะรับรู้อะไรทั้งนั้น ...เขากลัว กลัวว่าจะได้รับข่าวร้าย เขาทนไม่ได้ ที่จะให้คนที่เขารักต้องเจ็บปวด ... ในยามที่ดงฮีมีปัญหา สิ่งที่เขามักจะทำก็คือ การไประบายกับพี่ชายของตัวเอง

แต่ในที่สุด ดงฮีก็ได้เดินทางกลับ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เขาต้องรับผิดชอบต่อ ... เขากัดฟันเพื่อที่จะเดินกลับเข้ามาพบเพื่อนๆ กลับมาพบแววตาที่ปวดร้าวเช่นเดียวกับเขา ... มันช่างแสนทรมาน

ในวันนี้ ... ชีวิตในเส้นทางบันเทิงของเขาก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ดงฮี หรือชินดง ได้รับการแสดงละครตามที่เคยวาดหวังเอาไว้ และยังมีโอกาสได้มีผลงานเดี่ยวของตัวเอง เขายังต้องไล่ตามความฝันต่อไป เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น ว่าเราไม่ควรตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกแค่เพียงอย่างเดียว
DonGHaE_ELF Thai
[ 29-04-2009 - 17:07:05 ]







หวาดดีเบียร์
Vvizgaya
[ 29-04-2009 - 17:08:56 ]







quote : mzbr4

quote : Vvizgaya

รูปนี้ไปอัดสตาร์คิงล่าสุด (อีกแล้วว)

เหมือนจะมีพี่ทึก พี่เย่ ดงดง มินนี่ ฮยอกกี้
**มินน ผมเปลี่ยนไป๋


Cr:As tagged,onlysungmin,wordpress



มินนี่ผมเปลี่ยนไป๋ จริงๆด้วย


quote : Aiiir

แต่ความน่ารัก เต็มร้อย~!!!


**หน้าม้าแอ๊บแหว่างเปล่าน่ะ สไตล์ลิสทำอะไรหนูมินนนนนนนนน



แต่ทรงไหนเค้าก็ร้ากกรัก~มินนี่
Cream_love_SJ
[ 29-04-2009 - 17:09:34 ]







ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆ จากพี่แอร์และพี่ลูกน้ำด้วยจะค่ะ
Vvizgaya
[ 29-04-2009 - 17:09:54 ]







quote : Aiiir

quote : Vvizgaya

[SOHU CAM] Kibum Dance Practice 1.flv

Download~*

จิ้มๆไปดูคิมคิกัลล
ใครรู้ตัวว่าน่ารักแคปภาพให้โด้ยย

Credit :: gx010010的blog @sohu.com + MinHae@s-u-j-u.net
Re-up :: Vvizgaya


อะ แน่น๊อนนนนน

แต่ตอนนี้ข้อยพเจ้าอยู่ที่ทำงานแม่

เวลาเดิมค่ะ กลับถึงบ้านแล้วแคปให้


จร้า รู้ตัวใช่ป่ะว่าน่ารัก(หมายถึงด๊องน่ะ)

จริงๆด๊องคือคนแรกในเอสเจเลยที่เรารู้สึกว่า เฮ้ยย ชอบหว่ะ
Vvizgaya
[ 29-04-2009 - 17:16:38 ]







quote : Cream_love_SJ

ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆ จากพี่แอร์และพี่ลูกน้ำด้วยจะค่ะ

ยินดีจร้า
Aiiir
[ 29-04-2009 - 17:24:34 ]







quote : Vvizgaya

quote : Cream_love_SJ

ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆ จากพี่แอร์และพี่ลูกน้ำด้วยจะค่ะ

ยินดีจร้า

เช่นกันจ้า~~

โพสแล้วมีคนอ่าน

อัพแล้วมีคนโหลด

คนอัพโหลดคนโพส Happy~!!!
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้

เว็บนี้มีการใช้งาน cookie
ยอมรับ
ไม่ยอมรับ