-lPaintl- | [ 27-04-2012 - 12:06:43 ]
|
| โซนยอชิแด ทำรายได้ให้กับ SM Entertainment ถึง 2.17 หมื่นล้านวอน ภายในเวลา 9 เดือน โซนยอชิแด เดบิวท์ด้วยซิงเกิ้ลแรกของพวกเธอ Into the new world เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2007 ที่ผ่านมา และเมื่อพวกเธอปล่อยมินิอัลบั้มแรกออกมากับเพลง Gee ในเดือนมกราคม ปี 2009 ทำให้พวกเธอนั้น ได้กลายเป็นศิลปินที่็ฮ็อต และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้งานทั้งในฐานะนักร้องก็ดี ในฐานะนางแบบก็ดี ต่างหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าพวกเธอได้กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ยอดเยี่ยมที่สุด และเป็นที่รู้จักมากที่สุด ในปี 2011 หลังจากที่พวกเธอประสบความสำเร็จกับการเดบิวท์ที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2010 ผู้คนต่างให้ความสนใจกันอย่างร้อนแรงกับ โซนยอชิแด อีกครั้ง ว่า โซนยอชิแด ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปยอดเยี่ยมที่สุด จะทำให้ตัวพวกเธอเองนั้น เป็นที่นิยมมากได้แค่ไหน ในขณะที่กระแส K-Pop นั้น กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตาม ทาง SM Entertainment ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ โซนยอชิแด กลับไม่เคยกล่าวถึงรายได้ที่พวกเธอได้เลย ทำให้ผู้คนต่างประเมิณถึงรายได้ของพวกเธอ แต่เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา SM ได้ประกาศแผนกระจายหุ้นให้กับศิลปิน ผ่านทางบริษัทผู้ดูแลผลประโยชน์ทางการเงิน DART Financial Supervisory Service ในขณะเดียวกัน SM ก็ได้เผยถึง รายได้ของโซนยอชิแด ออกมาเป็นครั้งแรกให้โลกได้รับรู้เช่นเดียวกัน ผ่านทาง DART Financial Supervisory Service โดยตั้งแต่ไตรมาสแรก ถึงไตรมาสที่สามของปี 2011 รวมเป็น 9 เดือน โซนยอชิแดสามารถทำรายได้ไปทั้งหมด 21,737,000,000 วอน (591 ล้านบาท) หากสังเกตจากรายได้ของโซนยอชิแดข้างต้นนี้ จะพบว่า รายได้ส่วนนั้น จะประกอบไปด้วย รายได้จากโฆษณา กว่า 13,742,000,000 วอน (373 ล้านบาท) และรายได้จากอัลบั้ม และเพลงของพวกเธอประมาณ 7,995,000,000 วอน (217 ล้านบาท) ถ้างั้น งานแต่ละงานที่โซนยอชิแดไปออกล่ะ งานละเท่าไร ทางต้นสังกัดของโซนยอชิแด ได้เปิดเผยว่า 'งานแต่ละงาน' ที่โซนยอชิแดขึ้นแสดง ถ้าขึ้นแสดง 3 เพลง (ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที) โซนยอชิแด จะได้รับค่าตอบแทนประมาณ 40-50 ล้านวอน (1-1.3 ล้านบาท) หากกล่าวถึงงานที่จัดในเทศกาลต่าง ๆ ที่โซนยอชิแดขึ้นแสดง 1 งานเทศกาล พวกเธอจะได้รับค่าตอบแทนประมาณ 25-30 ล้านวอน (6.8-8.2 แสนบาท) แต่ในปี 2011 หลังจากที่กระแส K-Pop นั้น ไปไกลทั้งญี่ปุ่น และทั่วโลก ทำให้เห็นได้ชัดว่า รายได้ที่มาจากกิจกรรมที่ทำภายในประเทศนั้นลดลง โซนยอชิแด ที่ก็เป็นเกิร์ลกรุ๊ปอีกวงหนึ่งที่กำลังมาแรงในกระแส K-Pop เอง ก็สามารถกอบโกยรายได้จาก เพลง อัลบั้ม การแสดง ของที่ระลึก และอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่เพียงแค่ในเกาหลีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในต่างประเทศอีกด้วย 700-800 ล้านวอน ต่อ CF หนึ่งตัว (19-22 ล้านบาท) หากจะพูดถึงโฆษณาแล้ว คงต้องยอมรับว่า โซนยอชิแด นั้น เป็นอีกหนึ่งไอดอลเกาหลีที่เป็นเจ้าแม่โฆษณา ในปี 2007 หลังจากที่พวกเธอเดบิวท์ได้ไม่นานนั้น พวกเธอก็ได้รับการทาบทามให้ไปเล่นโฆษณาถึง 3 ตัว และถ้านับจนถึงปี 2011 พวกเธอได้มีผลงานเป็นนางแบบโฆษณามาแล้วกว่า 20 ชิ้น ไม่ใช่เพียงแต่ไอดอลกรุ๊ปเท่านั้นที่มีผลงานโฆษณามากมาย ลีซึงกิ เอง ก็ถือว่าเป็นศิลปินเดี่ยวอีกคนหนึ่งที่มีผลงานทางด้านโฆษณามากจนขนาดนามว่า ราชาแห่งโฆษณา ในปี 2011 นั้น โซนยอชิแดได้ถ่ายโฆษณาหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งโฆษณาแฟรนชายส์ เช่น ไก่กุ๊บเน่ย์ พิซซ่าโดมิโน่ โฆษณาเครื่องเดิม เช่น วีต้า500 โฆษณาเครื่องนุ่งห่ม เช่น SPAO, Eider โฆษณาเครื่องประดับ เช่น J.estina โฆษณาเครื่องประทินโฉม อย่าง Innisfreem, Clean&Clear, A Solution, The Face Shop, ดีออล โซนยอชิแด ยังฝากผลงานโฆษณาสินค้าจำพวกไอทีอย่าง คอมพิวเตอร์ โปรเซสซิ่ง เช่น Intel เว็บไซต์ออนไลน์อย่าง Daum โฆษณาเครื่องกรองน้ำ อย่าง อุงจิน โคเวย์ โฆษณาเครื่องอิเล็คทรอนิกส์ และโทรคมนาคม เช่น LG U+ หรือแม้กระทั่งเกมส์ออนไลน์ เช่น Freestyle Sport พวกเธอนั้นเล่นโฆษณามาแล้วเกือบทุกสินค้า ยกเว้นโฆษณาตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ทำให้พวกเธอนั้น เป็นไอดอลกรุ๊ปที่มีผลงานโฆษณาเยอะที่สุด ไม่มีใครเคยรู้มาก่อนว่า พวกเธอมีรายได้จากโฆษณาพวกนี้ไปทั้งหมดเท่าไร แต่จากที่ได้มีการเปิดเผยมาเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ทราบว่า ในแต่ละครั้งที่สมาชิกของโซนยอชิแดเล่นโฆษณา ยุนอา ที่มีผลงานในโฆษณาของ Eider และ Innisfree จะเป็นคนที่มีค่าตัวแพงที่สุด ซึ่งก็คือ 400 ล้านวอน (11 ล้านบาท) ตามมาด้วย ซอฮยอน ซึ่งได้เป็นนางแบบโฆษณาให้กับ Clean&Clear และ The Face Shop มีค่าตัวประมาณ 200 (5.4 ล้านบาท) ล้านวอน ส่วนสมาชิกของโซนยอชิแดที่เหลือ จะมีค่าตัวประมาณ 150-200 วอน (4-5 ล้านบาท) หากพูดถึงผลงานโฆษณาของพวกเธอ ในช่วงที่พวกเธอกำลังโปรโมท หรือเซ็นสัญญา(ในช่วงแรก ๆ) แน่นอนว่าค่าตัวของพวกเธอจะต่างจากค่าตัวแบบเดิมอย่างแน่นอน โดยค่าตัวของพวกเธอนั้น จะอัพสูงขึ้นถึง 700-800 ล้านวอน (19-22 ล้านบาท) ในขณะเดียวกัน มีเสียงร่ำลือมาว่า หากพิจารณาถึงรายได้จากโฆษณาของโซนยอชิแดทั้งหมดแล้ว รายได้อย่างต่ำที่พวกเธอได้รับจะมีจำนวนถึง 11,000 ล้านวอน (299 ล้านบาท) หากนำรายได้จากอัลบั้มและเพลง มาเปรียบเทียบกับรายได้ที่มาจากการทำกิจกรรมและโฆษณา จะพบว่ารายได้จากอัลบั้มและเพลง จะน้อยกว่ารายได้ที่มาจากการทำกิจกรรมและโฆษณากว่า 5,800 ล้านวอน (157 ล้านบาท) ซึ่งก็คือ 7,995 ล้านวอน (217 ล้านบาท) แต่ที่ตัวเลขต่างกันนั้น ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย เหตุผลก็คือ รายได้ ที่มาจากการวางแผงของอัลบั้มที่ 3 ของ โซนยอชิแด The Boys ในเดือนตุลาคม ปี 2011 นั้น ไม่ได้ถูกนับรวมเข้ากับรายได้มาจากการขายอัลบั้มในสามไตรมาสแรกของปี 2011 นั่นเอง อัลบั้ม The Boys ทำรายได้ทั้งสิ้นกว่า 3,800 ล้านวอน (103 ล้านบาท) ซึ่งทำให้เป็นอัลบั้มที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในเกาหลีในปีนั้น ถ้างั้น รายได้ที่มาจากการจำหน่ายอัลบั้มเกือบ 8,000 ล้านวอน (217 ล้านบาท) (รายได้ในสามไตรมาสแรกของปี 2011) นั้นมาจากไหน หากไม่นับรวม The Boys ได้ปี 2011 ก็จะถือว่าไม่มีการวางแผงอัลบั้ม และคาดว่ารายได้จะมาจากต่างแดนเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้น ในปี 2011 โซนยอชิแด ต่างต้องพบกับคู่แข่งมากมาย ทั้งคาร่า และจาง กึนซอก ซึ่งทำรายได้ในญี่ปุ่นไปไม่น้อย กว่า 4,049 ล้านเยน (ประมาณ 60,140 ล้านวอน นับจากรายได้บนชาร์ตออริกอน = 1,635 ล้านบาท) ในปี 2011 ที่ผ่านมา ซิงเกิ้ลภาษาญี่ปุ่นที่ 3 ของโซนยอชิแด Mr. Taxi วางจำหน่ายได้กว่า 165,000 ก๊อปปี้ภายในเวลาแค่เดือนเดียว และมียอดจำหน่ายซิงเกิ้ล Run Devil Run และ Girls' Generation รวมกันกว่า 800,000 ก๊อปปี้ แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยว่า โซนยอชิแด และต้นสังกัดได้มีการแบ่งสันปันส่วนรายได้ไปเท่าไร นี่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า สำหรับการที่เกิร์ลกรุ๊ปกรุ๊ปหนึ่ง จะสามารถทำรายได้มากขนาดนี้ภายในเวลา 9 เดือน แต่ความจริงแล้ว รายได้อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้เปิดเผยของโซนยอชิแด อาจจะมีมากยิ่งกว่านี้ ยกตัวอย่างเช่น คอนเสิร์ตอารีน่าทัวร์ที่ญี่ปุ่น (ทั้งหมด 14 รอบ) ซึ่งมียอดจำหน่ายบัตรทั้งหมด 140,000 ใบ และรายได้กว่า 17,500 ล้านวอน (474 ล้านบาท) คอนเสิร์ต Asia Tour ของพวกเธอ ที่เริ่มทำการแสดงไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2011 ที่ผ่านมา และคอนเสิร์ต คอนเสิร์ต SM TOWN ในต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่ารายได้จากสองคนเสิร์ตนี้ไม่ได้รับการเปิดเผย รวมไปถึง โฆษณาของญี่ปุ่นที่พวกเธอเล่น ซึ่งค่าตัวของพวกเธอนั้นสูงลิ่วกว่า 40 ล้านเยน (15 ล้านบาท) ต่อโฆษณาหนึ่งตัว (เช่น โฆษณาขนมหวาน ลิปตัน 7elven เป็นต้น) ยุคทองของโซนยอชิแด จะคงอยู่ไปอีกนานเท่าไร ในฐานะที่โซนยอชิแด เป็นหนึ่งในผู้นำซึ่งวัฒนธรรมของ K-Pop ทั้งอัลบั้ม เพลง การแสดง ของที่ระลึกที่วางจำหน่าย เป็นต้น ให้เป็นที่รู้จักไม่เพียงแต่ในประเทศเกาหลีเท่านั้น แต่ยังไปถึงต่างประเทศอีกด้วย ทำให้พวกเธอนั้น ได้รับรายได้อย่างมหาศาลอย่างไม่ขาดสาย อีกทั้ง ตราบใดที่ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดของวงการ K-Pop ทำให้การคาดการณ์ถึงโซนยอชิแดในอนาคตนั้นเป็นไปได้ยาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงร่ำลือว่าพวกเธอได้ถึงจุดสูงสุดไปแล้ว ในปัจจุบัน ศิลปินกลุ่มไอดอลในประเทศส่วนใหญ่กำลังดิ่งลงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่อาจบอกได้ว่า หลังจากที่โซนยอชิแดเดบิวท์ผ่านไป 6 ปี หนทางจะยังโรยด้วยกลีบกุหลาบอีกหรือไม่ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป จากหนทางที่โรยไปด้วยดอกไม้ของกระแส K-Pop ก็มีโอกาสที่จะมืดลงด้วยเช่นเดียวกัน แต่สมาชิกของโซนยอชิแดนั้นยังอยู่ในช่วง 20 ต้น ๆ แถมแต่ละคนไม่ได้ทำงานแค่เป็นนักร้องเพียงอย่างเดียว แต่พวกเธอยังทำงานเป็นนักแสดงละครเวที ในละครโทรทัศน์ พิธีกรรายการ เป็นต้น เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ตารางงานของโซนยอชิแดยังอัดแน่นกันอยู่อย่างนี้ เชื่อว่า ยุคของโซนยอชิแดจะยังไม่ถึงจุดดิ่งลงอย่างแน่นอน ในปี 2012 เอง โซนยอชิแด ก็ประสบความสำเร็จกับการเป็นนางแบบให้กับห้างสรรพสินค้าล็อตเต้ และ LG Cinema 3DTV เป็นต้น ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า พวกเธอจะยังสามารถก้าวหน้าไปได้ด้วยดีต่อไป แต่ถ้ากิจกรรมโปรโมทของโซนยอชิแดที่ญี่ปุ่นนั้น ไม่มีการแสดงแล้วล่ะก็ การที่โซนยอชิแดจะสามารถไปไกลได้แค่ไหนนั้น ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัด ก็คือมันไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับการที่ไอดอลกรุ๊ปรุ่นใหม่ ๆ จะแจ้งเกิดได้ ถึงแม้ โซนยอชิแด จะล้ำหน้า ทั้งในเรื่องรายได้ หรือความเป็นที่นิยมทั้งในประเทศ และต่างประเทศก็ตาม |
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้