Download / Clip / Songs/ Live / MV ของ Super Junior ~ แบบ HQ ชัด # 2

ครีมกะป๋าขอตัวไปนอนก่อนนะค่ะ
ป๋าบอกว่าง่วงแล้ว งั้นครีมขอตัวไปนอนก่อนนะค่ะ
นอนหลับฝันดี เห็น 12 ลิงไปวิ่งเล่นในฝันนะค่ะ อิอิ
ส่วนลิงอีก 1 ตัว(ป๋า) ครีมขอเอาไปนอนเป็นเพื่อนครีมนะค่ะ บายค่ะ

หวังว่าคงเป็นอย่างที่เบียร์พูดนะ
ไปจริงๆละ บายจ้า^o^

ฝันดี ฝันหวานจ้าครีม

ฝันเห็นลิงทั้ง 11 นะ

ป๋าอยู่กับครีมฮยอกอยู่กับเบียร์เลยเหลือ11 อิอิ

เบียร์ไปมั่งดีกว่า

ใครยังอยู่ก็ฝันดี ฝันหวาน ฝันเห็นลิงทั้ง 11(13)ค่ะ

ว๊า ไปกัลหมดและ

ขอให้ทุกคนฝันหวาลลลนะคะ

อันตัวเรานั้น ขอวิ่งเล่นในบ้านคนเดียว+เพ้อคนเดียวสักพักและกัน

อ้าว ไปกันแล้วหรอ

ฝันหวานเห็น 13(10) ลิงจร้า (กี้ก็อยู่กะพี่จร้า)

น้องเบียร์ น้องครีม

อันยองค่ะพี่ลูกน้ำ

แต๋มนึกว่าจะได้เพ้อ 2 คนกะกี้ซะแล้น

อย่ามาๆ พี่ขอเอามินมาขวางก่อน

พักนี้ คยูมิน เรี๊ยลเรียล

ไปดีกว่า ง่วงง

ฝันหวาลจร้าน้องแต๋มและกี้

ฝันหวานค่ะพี่ลูกน้ำ&มินนี่

อันยองตอนดึก ดึกแล้วจริงๆๆด้วยย
ยังมีใครอยุรึป่าวเอ่ยย^^

แต๋มกับกี้ยังอยู่ค่ะพี่มีน

แต่อีกเดี๋ยวก็จะไปแล้น

กี้ยังไม่ง่วงหรอออ><///คิคิคิ////
อีกเด๋วจะไปแล้วหรอออออ

แต่ว่าจะมีใครมาอีกมั้ยน้อออ
จะต้องปิดบ้านมั้ยยย

แต๋มกะกี้ไปนอนก่อนนะคะพี่มีน

ฝันหวานเห็น 12 ลิงนะคะ

ส่วนลิงตัวที่ 13 แต๋มขอเอาไปนอนกอดละกันเน้อ

จ้า!!!!
ฝันดีน้าน้องแต๋มมมคยูกี้ด้วยย

จ้า!!!!
ฝันดีน้าน้องแต๋มมมคยูกี้ด้วยย

จ้า!!!!
ฝันดีน้าน้องแต๋มมมคยูกี้ด้วยย

แต่ว่าที่นี่ยังมีใครอยุมั้ยยเอ่ยยย
โอวววววว...
พรีสสคอแบ็คทูมี

ว้าวววน้องแอรยาวมากนะนั่น----
สู้ๆๆ

[TRANS] Super Junior’s Interview in Cosmopolitan (June Issue)
Cosmopolitan Magazine – Time To Play
Leeteuk, Hankyung, Donghae, Kyuhyun,
Siwon, Yesung, Eunhyuk, Sungmin

บทนำ

ถ้าคุณหาคน ๆนึงพบ คนอื่นๆจะหายไป
ถ้าคุณทำให้สองคนนั่งลง อีกสองคนจะหายไป
อ่า,ไม่มีคำตอบ ฉันแค่ต้องเล่นกับพวกเค้า
-ผู้สัมภาษณ์ ยุนมีโจ

*E=editor /ผู้สัมภาษณ์

E: ฟู่ว

LT: ถอนหายใจทำไมครับ?

E: ดิฉันกังวลค่ะ สมาชิกSJทั้ง 8 คนมองมาที่ฉัน มันทำให้ฉันกลัวนะ ฉันเป็นผู้หญิงด้วย ฉันสงสัยว่าการสัมภาษณ์วันนี้จะผ่านไปด้วยดีมั้ย

LT: คิคิคิ

E: คุณนั่งอยู่ตรงกลางของโต๊ะ เพราะว่าคุณคือหัวหน้าวงหรือเปล่า?
คุณมีอำนาจของความเป็นหัวหน้า คุณค่อนข้างเข้มงวดกับสมาชิกในวงหรือเปล่า?

LT: ก็ไม่เชิงหรอกฮะ จริงๆแล้วพวกเค้าเคร่งครัดกับผม คุณเห็นได้จากตอนที่เราถ่ายภาพกัน
ว่าเค้าปฏิบัติยังไงกับผม

E: ตอนที่พวกเราเตรียมตัวสำหรับการถ่ายภาพ ฉันถามว่า ในความคิดของแต่ละคน ซุปเปอร์จูเนียร์หมายถึงอะไร
คำถามนี้ค่อยข้างจะน่าเบื่อนะ มันคาดเดาได้ว่าคุณจะให้คำตอบอะไร ครอบครัว ความสัมพันธ์ที่ละทิ้งไม่ได้ และอื่นๆ
ฉันคิดว่าหัวหน้าวงน่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุด คุณคิดยังไงคะ?

LT: หืม...ผมควรจะพูดว่าไงดี? พวกนายพูดว่าอะไรไป?

EH: ผมพูดไปว่า SJ คือทีมที่มีพี่อีทึกเป็นผู้นำ.

LT: โอ้ ฟังดูดีจัง ดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ? ทีมที่มีชั้นเป็นคนนำ คิคิคิ คนอื่นๆ ล่ะว่าไง?

DH: SJ คืออีทึกและเหล่าเด็กๆ ฮ่าๆๆๆๆ

YS: เฮ้ เลิกล้อเล่นน่า นี่เป็นการสัมภาษณ์ที่จริงจังนะ!

E: Cosmo มีบรรยากาศประเภทนี้เสมอล่ะค่ะ แล้วเยซองผู้ซีเรียสคิดอย่างไรกับคำว่ามิตรภาพคะ?

YS: ไหงผมถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ? ยังไงก็เถอะ ผมคิดว่ามิตรภาพเรียนรู้ได้จากลีทึกฮยอง
โอ้ ผมรู้แล้ว มิตรภาพคือ Super Junior
นายคิดว่าไงล่ะ?

SW: ฟังดูดีนะ Super Junior คือ มิตรภาพ ก็ตามนั้นละ
Super Junior เท่ากับ มิตรภาพ!

LT: ผมคิดว่ามิตรภาพคือน้ำตานะ ผมรู้จักดงแฮและอึนฮยอคมา 10 ปีแล้ว กับสมาชิกคนอื่นๆ ก็นานแล้วเช่นกัน
พวกเราร้องไห้ด้วยกันมามาก เตรียมตัวสำหรับอนาคตที่ไม่แน่นอน
มิตรภาพก็ถูกสร้างขึ้นโดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลยโดยการร้องไห้
ฉะนั้นสำหรับพวกเรา มิตรภาพมาจากน้ำตา!

E: คำตอบค่อนข้างจะเป็นตำราเลยนะ แม้ว่าพวกคุณจะคิดเกี่ยวกับมันก่อนที่คุณจะให้คำตอบแล้วก็ตาม ฉันคิดว่างั้นนะ? ฮ่าฮ่า
อันที่จริงแล้ว Cosmo ตัดสินใจไว้ว่าจะต้องพบกับ SJ เพราะพวกคุณพัฒนาตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบด้วยอัลบั้มที่ 3 'Sorry Sorry'
มีอะไรเกิดขึ้นกับ SJ ในช่วงนั้นบ้างคะ?

LT: พวกเราคิดราวกับว่า ถ้ามันคืออัลบั้มสุดท้ายของเรา และทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างของเราเพื่อมัน

E: ก่อนอัลบั้มสาม ชื่อเสียงของSJและสมาชิกบางคนเป็นที่รู้จักกันดี แต่เป็นในนามของนักร้องกลุ่ม มันเป็นสถานะที่ไม่คงที่นัก เพลงแนวTrot 'Rokkugo' เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด
ต่อมาคือ 'Sorry Sorry' SJยืนอยู่บนจุดที่ได้รับการยอมรับอีกครั้งจากวงการ K-POP
ดูจากคำขอบคุณในอัลบั้ม พวกเราเห็นถึงความมั่นใจของคุณ ครั้งแรกที่คุณได้ยิน 'Sorry Sorry' พวกคุณคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จไหมคะ?

SW, KH, EH, YS, DH: จากใจจริง พวกเราทำได้แล้วครับ

SM: ตอนที่พวกเราได้ฟังเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม ผมชอบพวกมันจริงๆ แต่ก็รู้สึกเหมือนมันขาดอะไรสักอย่างไป จนท้ายสุด ผมได้ฟัง 'Sorry Sorry' สมาชิกส่วนใหญ่บอกว่ามันดีจริงๆ แน่นอนว่าพวกเราฝึกเต้นไปด้วย
ผมคิดว่า ว้าว นี่มันเยี่ยมจริงๆ ผมต้องการจะขึ้นไปแสดงบนเวทีเพื่อผู้ชมจริงๆ

HK: ในตอนแรกผมไม่รู้จริงๆ ดังนั้นผมจึงทำงานหนักขึ้นเพื่อมัน พวกเขาบอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ดี ดังนั้นมันจึงต้องออกมาเป็นเพลงที่ดี

LT: ครั้งแรกที่ผมได้ฟัง 'Sorry Sorry' มันฟังดูเหมือนเพลงในคลับมากเกินไป โดยส่วนตัวผมชอบฟังเพลงที่เงียบๆ มากกว่าจังหวะหนักๆ ดังนั้นผมจึงไม่ค่อยชินกับเพลงสไตล์นี้
ผมกังวลว่าเพลงนี้จะประสบความสำเร็จมั้ย และทุกคนจะชอบมันหรือเปล่า แต่มันก็คือความกลัวที่ไม่มีผล
ตอนที่เราเริ่มอัดเสียง และออกแบบท่าเต้น ความมั่นใจที่เริ่มจาก 0 ก็พุ่งขึ้นเป็น 90
ก่อนที่พวกเราจะ Come Back พวกเราพูดในการสัมภาษณ์เสมอว่าเพลงที่เราจะปล่อยออกมา จะออกมาพร้อมสีสันที่แตกต่าง
แต่ตอนนี้ ผมมั่นใจมากพอที่จะบอกว่า พวกเราจะแสดงมันออกมา แทนที่จะอธิบายด้วยคำพูด

E: ท่าเต้นเพลง Sorry Sorry ที่นิค แบสออกแบบเป็นที่รู้จักในฐานะของไอดอลที่มีพื้นฐานการเต้น มันดูมีสไตล์และมีการเปลี่ยนรูปแบบอย่างสวยงาม และสมาชิกแต่ละคนยังมีความโดดเด่นอีกด้วย
แต่สมาชิกวงก็มากเหลือเกิน พวกคุณคงจะเคยอิจฉาส่วนของสมาชิกคนอื่นใช่ไหม?

YS: อึนฮยอคได้เต้นโซโล่ และมันดูสุดยอดมากแม้จากมุมมองของผู้จากด้วยกัน ผมเต้นได้ไม่ดีนัก และก็อยากจะเต้นให้ได้ เพราะงั้นผมเลยอิจฉาเขาตรงนี้ บางครั้งผมคิดว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าผมสามารถเต้นได้ดีเท่าอึนฮยอค เหมือนบางทีผมอาจเต้นมากกว่านี้ได้ ไม่รู้สิ ผมอาจจะเต้นได้ดีเท่าเขาก็ได้มั้ง?

LT: ตอนที่เพลงเริ่ม มันจะมีตอนที่ซีวอนยกนิ้วของเขาขึ้น พวกเราล้อเขาว่าเขาดูเหมือนประฐานบริษัทอะไรสักอย่าง แต่พวกเราก็ล้อเขาเพียงเพราะอิจฉาเขาเท่านั้นเอง

SM: ผมอิจฉาตอนเริ่มเพลงที่พี่ฮันคยองเดินนำออกมาพร้อมมือล้วงกระเป๋า
การเดินเข้าไปอย่างมีพลัง!

E: ทำไมคยูฮยอนไม่พูดเลยล่ะ? คุณไม่ได้อิจฉาสมาชิกคนไหนเลยเหรอ?

KH: ผมโอเคครับ

DH: เขามีท่อนร้องของเขาเยอะ นั้นและคือเหตุผล

Everyone: ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

E: ฉันได้ยินมากว่าคุณกำลังจะเริ่มโปรโมทเพลงของ E-Tribe ‘It’s You’ ฉันสงสัยว่ามันให้ความรู้สึกอย่างไรเมื่อเทียบกับ ‘Sorry Sorry’ คะ?

SM: อาจบอกได้ว่า มันมีส่วนที่โรแมนติคที่ผู้หญิงจะชอบเมื่อเทียบกับ ‘Sorry Sorry’

EH: อัลบั้มรีแพคเกจนี้มีเพลงที่เรียววุคเป็นคนประพันธ์ และซองมินเขียนเนื้อเพลงเป็นครั้งแรก พวกเราจึงคาดหวังกับมันมากขึ้น

LT: พวกเราได้ยินมากว่า ในเพลง Sorry Sorry พวกเราเปลี่ยนไปมาก แต่ซุปเปอร์จูเนียร์ยังมีอะไรหลายอย่างจะแสดงให้ชม พวกเราจะยังคงทำงานหนักเพื่อพัฒนาตัวเอง

E: ฉะนั้น ฐานของไอดอลคือการฝึกซ้อมโดยไม่มีที่สิ้นสุดใช่ไหมคะ? จากที่ฟังลีทึกและอึนฮยอคใน Kiss The Radio Season 2 พวกคุณพูดเกี่ยวกับความยากลำบากระหว่างที่พวกคุณยังเป็นเด็กฝึกหัด
ฉันสงสัยว่าพวกคุณเคยคิดไม่อยากให้ใครสักคนอยู่ทีมเดียวกันไหม?

LT: จุนซู ดงบังชินกิเคยบอกผมเกี่ยวกับอึนฮยอคไว้มาก ว่าเขามีเพื่อนที่สามารถร้องแรพได้ดี และเต้นเก่ง ยิ่งไปกว่านั้น เขาหน้าตาเหมือน จางวูฮยุค คนที่คุณก็รู้จัก ผู้ชายที่สุดยอดมาก
ดังนั้น ผมเลยผิดหวังเล็กน้อยตอนที่พบกับอึนฮยอคครั้งแรก เพราะผมได้ยินกิตติศัพท์ดีๆเกี่ยวกับเขามามาก ฮ่าๆๆๆๆ

SM: ฉะนั้น คุณไม่ควรคาดหวังกับใครบางคนมากเกินไป ถ้าคนๆนั้นถูกสรรเสริญไว้มากเหลือเกิน!

LT: ตอนที่ผมเห็นอึนฮยอค ผมคิดว่าเขาคงจะจากไปภายใน 3 เดือน ถ้าคุณเป็นเด็กฝึกหัดมานานพอ คุณจะรู้ว่าเด็กฝึกหัดมาใหม่จะออกไปเมื่อไหร่ แต่อึนฮยอคยังคงอยู่ต่อหลังผ่านไป 3 เดือน
จากตอนนั้น ผมมองเขาใหม่ และเขาเต้นได้ดีจริงๆ ร้องแรพได้ดี และมีพรสวรรค์มากมาย เหมือนอย่างที่จุนซูบอก

YS: ตอนที่เราฝึกซ้อมกัน พวกเรามีระบบว่าหลังจากซ้อมกันมาจนสุดสัปดาห์ พวกเราต้องแสดงสิ่งที่เราซ้อมไป และรับความคิดเห็นจากคนอื่น และดูว่าใครมีความสามารถอะไรบ้าง
นั่นคือตอนที่ผมได้เห็นว่าทุกคนดูดีมาก และต่างมีเอกลักษณ์ของตัวเอง แล้วผมก็เห็นคนๆหนึ่งที่โดดเด่นสุดๆ เขาอยู่ในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียน และกำลังนั่งลงอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ผมจึงประมาณว่า ‘เขาเป็นอะไรน่ะ?’
จากนั้นผมก็ได้เห็นเขาเต้นบนเวที ผมช็อคไปเลย เพราะเขาทำได้ดีมากๆ เด็กคนนั้นคือ อึนฮยอค

E: คำตอบมุ่งไปที่คนๆ เดียว ฉันไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เพราะมันมีแต่คำชื่นชมดีๆ
ดังนั้น เราจะข้ามตรงนี้ไป
กับซุปเปอร์จูเนียร์ ดูเหมือนว่าสมาชิกแต่ละคนจะเป็นที่รู้จักทั่วไปมากกว่า เมื่อเทียบกับสมดุลความเป็นที่นิยมของวงอื่นๆ ใครที่คิดว่าดีพอควรในทุกด้านคะ?

DH: หือ? ผมรู้สึกเหมือนได้ยินใครบางคนพูดว่า ‘ผม’.สองคนมั้ง?

EH: ผมเอง

DH: เราไม่ต้องสนใจเขาก็ได้ เขาเป็นแบบนี้เสมอ

E: จากการแสดงออกของคุณ ดูเหมือนคุณจะคิดว่าคุณยอดเยี่ยมที่สุดใน Super Junior ?

EH: ฮ่าๆ

E: แล้วฮันคยองล่ะคะ? คุณถูกเรียกว่า ปาฏิหาริย์จาก 13,000ล้านคน และคุณได้รับความนิยมทั้งในเกาหลี และจีน คุณไม่ค่อยพูดเลยถ้าฉันไม่ทักคุณก่อน ดังนั้น ช่วยพูดอะไรสักเล็กน้อยเถอะค่ะ

HK: ผมรู้สึกสะดวกสบายกับเรื่องพวกนี้ (แอบงงป๋า - -??)

E: หือ??

DH: เขาหมายถึงว่าเขาค่อนข้างจะมั่นใจกับความนิยมของเขา

SM: พวกเราทุกคนค่อนข้างจะสะดวกสบาย นับตั้งแต่พวกเรามีจุดแตกต่างในเรื่องของความป๊อปปูล่าร์
เมื่อพวกเราทำอะไรอย่างหนึ่ง คนหนึ่งจะดูดี เมื่อเราทำอย่างอื่น อีกคนก็จะดูดี ฉะนั้น มันจะเปลี่ยนไปมาประมาณนี้ตลอดเวลา

E: ดังนั้น ใครป๊อบปูล่าร์มากที่สุดในการโปรโมทอัลบั้มที่ 3 คะ?

DH: ทึกฮยองครับ เขาพูดได้ดีมาก

SM: เขาเป็นประธานของสาวๆทั้งหมด

Everyone : ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

LT: ผู้จัดการของเรากับผมเองคิดว่า ผมรู้สึกเหมือนผมยืนอยู่ตรงกลางของความเป็น Super Junior มันจะดีกว่าถ้าลีดเดอร์ไม่ดีเลิศเกินไป หรือแย่จนเกินไป แต่อยู่ตรงกลางพอดี ผมจึงได้ยินมาว่า พวกเราเลือกลีดเดอร์ที่ดีมา
ผมไม่ได้ชอบตำแหน่งนี้เลย แต่ตอนนี้ ผมคิดว่ามันถูกต้องแล้ว

YS: ผมคิดว่าผมช้าในบางด้าน แต่ทุกคนก็เป็นที่นิยมในบางขอบเขต
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าทุกคนจะทำงานหนักที่ตำแหน่งของตัวเอง แม้ความนิยมจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ดังนั้น ผมจึงพยายามทำงานหนักมากขึ้นตลอดเวลา

E: ในรายการ ‘Come To Play’ เยนึง (ผู้มอบความบันเทิง) เยซองทำให้ทุกคนหัวเราะจนน่ากลัวจะปวดท้องกัน วันนี้ฉันรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่คุณกำลังซีเรียสกับการตอบตามตำราไอดอล

YS: นั่นก็คือตัวตนของผมเช่นกัน สมาชิกคนอื่นมีลุคที่ดูดีกว่าผม และเก่งกว่าผมในหลายด้าน ผมเต้นได้ไม่ดีนัก ผมเป็นนักร้อง แต่ผมไม่คิดว่าผมดีด้านร้องเพลงไปเสียหมด และนั่นคือเหตุผลที่ผมยอมรับได้ในส่วนนี้
ผมยอมรับมัน และคิดว่าผมต้องทำงานหนักกว่านี้ เมื่อก่อนผมมักมาอารมณ์เสียกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ ผมเลิกกังวลกับมันแล้ว

E: ดังนั้น สมาชิกคนไหนที่คุณสงสัยว่าทำไมเขาถึงเป็นที่นิยมมากขนาดนั้นคะ? ใครได้รับมากกว่าที่เขาทำไป?

EH: ทุกคนได้รับความนิยมมากเท่าๆกับความสามารถของเขาแหละครับ อย่าถามเรื่องนี้มากไปกว่านี้เลย

E: คิคิคิ ฉันผ่านตรงนี้ไปก็ได้ ดูเหมือนพวกคุณจะระวังกันจังนะคะ
เรามาคุยกันเรื่องรายการ ‘Intimate Note’ ดีกว่า มันเป็นรายการที่น่าสนใจมาก ฉันรู้สึกช็อคมากที่สมาชิกบางคนไม่รู้เบอร์โทรศัพท์ของอีกคน
พวกคุณไม่ได้สนิทกันมากเหรอคะ? หรือมันเป็นบท? อึนฮยอคกับซองมินช่วยตอบทีนะคะ เพราะพวกคุณเป็นตัวหลักในรายการนั้น

EH: มันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ จริงๆแล้ว เวลาผมอยู่กับฮีชอลฮยองสองคน ผมรู้สึกได้ถึงบรรยากาศน่าอึดอัด

SM: ผมเองก็อึดอัดเล็กน้อยกับคังอินฮยอง แต่การที่ให้พวกเรามานั่งหน้ากล้องสิบตัวหรือมากกว่านั้นโดยไม่มีบท มันดูแย่มากกว่าที่เห็น แม้แต่คนที่สนิทกันมากๆก็คงจะดูอึดอัดในสถาการณ์แบบนั้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เวลาที่คังอินฮยองและผมอยู่ด้วยกันสองคน พวกเราคุยกันน้อย เพียงแค่เพราะพวกเราชอบอะไรต่างกัน

YS: มันยิ่งกว่าที่พวกเขาสนอะไรต่างกันอีกน่ะสิ พวกเขามีงานอดิเรกต่างกันอีกด้วย

LT: เหมือนกับที่ออกอากาศไปนั่นแหละ อึนฮยอคเอาเสื้อยืดของฮีชอลไปจริงๆ และพวกเขาไม่ได้คุยจริงจังเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นอีก yeah พวกเขาโอเคแล้วละ ฮ่าๆๆๆๆ

E: ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากไปนิด เพราะฉันคิดว่าทั้งหมดนั่นคือบท แล้วสรุป พวกคุณตอนนี้ใกล้ชิดกันมากขึ้นหลังจากรายการนั้นใช่ไหมคะ?

LT: ครับ ในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ ผมไม่คิดว่าพวกเขาสนิทกันแล้ว แต่คู่อึนฮยอคกับฮีชอล และคู่คังอินกับซองมิน ไม่เรียกชื่อของอีกฝ่าย แต่กลับเรียกว่า ‘เฮ้ คู่ intimate mate! (ชินมิลฮันชินกู หรือก็คือ เพื่อนซี้)’ หลังจากรายการนั้น
ไม่กี่วันถัดมา ระหว่างการถ่ายทำมิวสิควีดีโอ ‘It’s You’ อึนฮยอคกำลังทานอาหารอยู่คนเดียว ผมรู้สึกผิดกับเขา ผมจึงเดินเข้าไปทานข้าวกับเขา แล้วฮีชอลก็พูดว่า ‘เฮ้ intimate mate มาทานข้าวด้วยกันเถอะ’ และก็เอาสัมภาระของเขามานั่งกับอึนฮยอค

SM: และพวกเขาก็ทานข้าวกันไปโดยไม่มีบทสนทนาใดๆ มันดูเหมือนจะอึดอัดเมื่อคุณอยู่กับพวกเขา แต่พวกเขาบอกว่า พวกเขาสบายใจกับมัน

DH: คิคิ ใช่ครับ พวกเขาไม่พูดอะไรสักคำระหว่างที่ทานข้าวกัน

YS: ฮีชอลฮยองกับอึนฮยอคเป็นคนประเภทที่จะไม่ค่อยพูดระหว่างทานอาหาร และพวกเขาไม่ชอบให้ใครมาแย่งอาหารของเขา ถ้าอย่างนั้นจุดประสงค์ของการอยู่ด้วยกันคืออะไรล่ะ!?