กว่าจะถึงวันนี้ของ.....Lee Jun Ki
กว่าจะมาโด่งดังขนาดนี้ได้ จุนกิต้องฝ่าฟันอุปสรรคมาสารพัด จุนกิเริ่มรู้ตัวตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าอยากเป็นนักแสดง แต่ติดตรงที่ครอบครัวไม่สนันสนุน เพราะคิดว่าเป็นอาชีพที่ไม่สามารถจุนเจือครอบครัวได้จริง โดยครอบครัวของจุนกิบอกว่า "ถ้าจุนกิย่างเท้าออกจากบ้านเพื่อไปเรียนการแสดงที่ โซลล่ะก็ จะถือว่า จุนกิไม่ใช่ลูกอีกต่อไป " ซึ่งครั้งนั้นจุนกิเลือกที่จะเดินตามหาความฝันของตัวเองอย่างมุ่งมั่น เค๊าออกจากบ้านมาหลังจากทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง โดยที่มีเงินติดตัวอยู่เพียง 3 แสนวอนเท่านั้น (ประมาณ 11,500.-บาท) ซึ่งเป็นค่าจ้างที่ได้จากการทำงานในร้านอาหารของป้า มีเพียงคุณยายของจุนกิเท่านั้นที่คอยสนับสนุนมาตลอด....หลังจากนั้นชีวิตของจุนกิก็เข้าสู่ช่วงตกต่ำสุดๆ ทุกมื้อต้องกินข้าวกับกิมจิ การไม่มีเงินทำให้เครียดอย่างมาก ทำให้จุนกิเริ่มติดบุหรี่ ต้องไปหาก้นบุหรี่ตามสวนสาธารณะมาสูบ....ดูน่าสงสารมาก เงินซื้อข้าวยังแทบไม่มีเลย จุนกิต้องทำงานอย่างหนักไม่ว่างานเสิร์พในร้านอาหาร ในบาร์ เป็นพนักงานทำความสะอาดในโรงครัว รวมทั้งเด็กปั๊ม เจ้าตัวเป็นมาหมดแล้ว..........
ในที่สุดความฝันของจุนกิก็เริ่มขยับเข้ามาใกลัอีกนิด เมื่อเค๊าได้รับเลือกให้แสดงตัวประกอบเล็กๆ ในหนัง....Hotel Venus... ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด จนหนังเรื่องที่ 2 คือ ...Flying Boys...ซึ่งจุนกิพอจะมีบทบาทเด่นอยู่บ้างถูกนำออกมาฉาย ชื่อของ Lee Jun Ki ก็ดูเหมือนจะได้รับความสนใจมากขึ้น ในวันฉายจุนกิเชิญพ่อกับแม่มาดูด้วย แต่เสียดายที่คุณยายไม่มีโอกาสได้ดู ท่านจากจุนกิไปก่อนที่จะได้เป็นนักแสดงอีก.....หลังจากนั้น จุนกิก็เริ่มมีผลงานแสดงเข้ามามากขึ้นจนดังเปรี้ยงปร้างขนาดที่เจ้าตัวยังตกใจ จากพระรองเรื่อง...My Girl ซึ่งคนที่ดูแล้วได้แต่บอกว่าตกหลุมรักพระรองเรื่องนี้กันเป็นแถว ไม่นานนักจุนกิก็เพิ่มดีกรีความแรงของตัวเองอีกครั้งจากบทนำในเรื่อง King and the Clown... ซึ่งเป็นหนังที่ทุกคนยกให้เป็น Brokeback Mountain...ของเกาหลี เนื่องจากหนังแฝงไว้ซึ่งเรื่องราวของชายรักชาย โดยจุนกิต้องแต่งหน้าหนาเตอะ เพื่อรักบทเป็นนักแสดงตัวนางของเรื่อง และผลงานนี้เองทำให้จุนกิคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของปีไปครองได้สำเร็จ...
ด้วยความสำเร็จที่ประดังเข้ามาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ทำเอาเจ้าตัวมึนงงกับกระแสตอบรับ มารู้ตัวอีกทีจุนกิก็พบว่ามีแฟนคลับตามเชียร์เค๊ามากขึ้นๆ ทุกวัน งานของตัวเองก็มีมากขึ้นทุกวีน จนไม่มีเวลาหยุดพัก และถึงแม้ว่าตอนนี้จุนกิจะเป็น Superstar อาจทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้สร้างความหนักใจให้แต่อย่างใด เพราะสิ่งที่เจ้าตัวหงุดหงิดและเบื่อหน่ายมากกว่าก็คือ กระแสข่าวลือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความสะสวยผิดผู้ชายของเค๊า เรื่องศัลยกรรม และเรื่องที่ว่าเค๊าเป็นเกย์ (หลังจาก King and the Clown ออกฉายมีอีเมล์จากชาวเกย์ส่งมาจีบมากมาย) จุนกิบอกว่ไม่ได้ทำอะไรเลย เคยคิดจะไปเหลากรามออกแต่ก็ไม่ได้ทำ และเคยคิดทำตาสองชั้นเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ทำอีกนั่นแหละ ส่วนจมูกเป็นของแท้ที่พ่อแม่ให้มา ส่วนเรื่องเกย์ก็ไม่อยากตามแก้ข่าว เพียงแต่บอกว่าถ้าว่างจากงานเมื่อไหร่ คงต้องหาแฟนแล้วแหละ โสดมานานแล้ว....
นอกจากข่าวลือต่างๆ มากมายแล้ว อีกเรื่องหนึ่งทีทำให้เจ้าตัวออกมาพูดเป็นประจำคือเรื่องรายได้ที่ว่ากันว่าในช่วงปี
สองปี จุนกิฟันรายได้มากมายจากงานแสดง งานโชว์ตัวและงานโฆษณาต่างๆ จนกลายเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ซึ่งจุนกิบอกว่ามีงานเข้ามากมายจริงๆ และถ้ารับทำทั้งหมดคงเป็นเศรษฐีไปแล้ว.......
เมื่อเร็วๆ นี้จุนกิเพิ่งจะเซ็นสัญญาเป็น Presenter ให้กับสินค้า Gioidarno, Lacvert, Pomegrante, Anycall, LG และ ล่าสุดเพิ่งจะเสร็จสิ้นการอัดเสียงซิงเกิ้ลเพลงที่เค๊านำมาร้องโชว์แฟนคลับกว่า 12,000 คน ในงาน Meeting ครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากงาน Meeting ในวันนั้นปรากฏว่าเพลงทั้งสองของจุนกิ ร้องได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก และฮิตถึงขนาดต้องอัดเป็นซิงเกิ้ลออกวางขายกันเลยทีเดียว ส่วนด้านงานแสดงนั้นเพิ่งจะเสร็จสิ้นจากการถ่ายหนัง Fly Daddy ไปหมาดๆ ช่วงนี้กำลังเดินสายโปรโมทกัน สำหรับแฟนๆ ชาวไทยคงจะได้มีโอกาสชมหนังของจุนกิในช่วงเดือนตุลาคมนี้...
เครดิต จากหนังสือ Spicy...ส่วนคนเขียนคอลัมม์ในหนังสือ..เป็นน้องๆ พี่เองจ้ะ.