Super Junior
ซูเปอร์จูเนียร์ เป็นกลุ่มวงดนตรีบอยแบนด์จากประเทศเกาหลีใต้
ในสังกัดของ เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เดิมประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 12 คน
แต่ก็ได้รับสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 1 คน ทำให้ซูเปอร์จูเนียร์มีสมาชิกรวมแล้ว 13 คน
ถือได้ว่าเป็นวงบอยแบนด์ที่มีสมาชิกมากที่สุดอีกวงหนึ่ง
โดยสมาชิกทั้งหมดของวงล้วนแล้วแต่ผ่านการคัดเลือกจากเวทีต่างๆเข้ามา
และทั้งหมดก็ล้วนแต่มีความสามารถที่มีลักษณะเฉพาะตัว
โดยล้วนแล้วแต่ผ่านการทำงานในสายบันเทิงมาแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการแสดง พิธีกร หรือนายแบบ
สีประจำวง
สีน้ำเงินมุก หรือ สีน้ำเงินมรกต (Sapphire Blue)
ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2547 เกิดข่าวลือหนาหูแพร่สะพัดไปในอินเทอร์เน็ต
เกี่ยวกับการก่อตั้งบอยแบนด์กลุ่มใหญ่ของ เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ จนกระทั่งในตอนต้นของปี พ.ศ. 2548
เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้ออกมายืนยันข่าวลือดังกล่าว พร้อมทั้งประกาศว่า
บอยแบนด์กลุ่มดังกล่าวจะมีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้นกว่า 12 คน และจะทำการเปิดตัว
ต่อสาธารณชนในช่วงก่อนสิ้นปี นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเน้นว่า บอยแบนด์กลุ่มนี้จะกลายเป็น
"ประตูสู่ความเป็นดาวแห่งเอเชีย( The Gateway to Stardom of Asia )"
ในขณะนั้น พวกเขาถูกเรียนขานว่า โอเวอร์ หรือ โอ.วี.อี.อาร์.( O.V.E.R. ) ซึ่งย่อมาจาก
"ยึดมั่นในท่วงทำนองของแต่ละจังหวะ ( Obey the Voice for Each Rhythm )"
และในภายหลัง ได้กลายมาเป็น ซูเปอร์จูเนียร์ 05 ก้าวแรกของซูเปอร์จูเนียร์ในปัจจุบัน ซูเปอร์จูเนียร์ได้ออกมาปรากฏตัวเป็นครั้งแรก
ก่อนหน้าการเปิดตัวในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2548 ทางสถานี M.NET ในรายการดังกล่าว
ซูเปอร์จูเนียร์ได้แสดงการเต้นสไตล์ฮิบฮอปในหลากหลายรูปแบบ พวกเขาทั้งหมดเต้นร่วมกันในเพลง
"Take It To The Floor" ของวง บีทูเค (B2K) นอกจากนั้น ฮันคยอง, อึนฮยอค และดงแฮ
ยังได้เต้นเพลง "Caught Up" ของ อัชเชอร์(Usher)อีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี
รายการดังกล่าวไม่ได้ถูกนำออกอากาศ จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2548
รายการที่บันทึกไว้ได้กลายเป็นช่วงหนึ่งของรายการ "Super Junior Show"
ซึ่งเป็นรายการสารคดีทางโทรทัศน์เรื่องแรกของพวกเขา เปิดตัวต่อสาธารณชน
ซูเปอร์จูเนียร์ได้เปิดตัวและออกรายการโทรทัศน์ครั้งแรกที่สถานี
SBS ในรายการ "Ingigayo" หรือ "Popular Songs"
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนพ.ศ. 2548 พร้อมกับการแสดงในเพลง Twins (Knock Out)
ซิงเกิลแรกของพวกเขา ซึ่งภายหลังจากการแสดงครั้งนั้น
ซูเปอร์จูเนียร์ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลง
และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ทางต้นสังกัดตัดสินใจที่จะออกวางขายอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรก
ของซูเปอร์จูเนียร์ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2548 โดยที่ก่อนหน้านี้นั้นซูเปอร์จูเนียร์ ไ
ด้ออกซิงเกิ้ลพิเศษที่มีชื่อว่า "Show Me Your Love" ร่วมกับสมาชิกร่วมค่าย
อย่างวงดง บัง ชิน กิไปแล้ว เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2548
นอกจากความโด่งดังของซูเปอร์จูเนียร์ในประเทศเกาหลีใต้บ้านเกิดแล้ว
พวกเขายังเป็นที่รู้จักในต่างประเทศอีกด้วยโดยเฉพาะในประเทศไทย
ที่พวกเขาได้มีโอกาสไปร่วมงาน "พัทยามิวสิกเฟสติวอล 2006"
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม - 19 มีนาคม พ.ศ. 2549 ที่ผ่านมา
ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ในประเทศจีนเองพวกเขาก็มีเว็บไซต์ที่เหล่าแฟนคลับทำขึ้น
และในช่วงเดือนมิถุนายนนี้พวกเขาอาจมีโอกาสได้ไปโปรโมทที่ประเทศจีนอีกด้วย
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมิวสิกวิดีโอของพวกเขา ที่มีชื่อว่า "Dancing Out"
ได้เริ่มออกอากาศตามสถานีโทรทัศน์ และซูเปอร์จูเนียร์ก็ได้ออกแสดงโปรโมทตามรายการโทรทัศน์สถานีต่างๆ
โดยมิวสิกวีดีโอเพลงนี้ถ่ายทำกันที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อครั้งที่ซูเปอร์จูเนียร์ได้เป็นแขกรับเชิญพิเศษ
ให้กับคอนเสริต์ของนักร้องร่วมค่ายอย่าง ดง บัง ชิน กิ ที่จัดขึ้นที่นั่นในช่วงเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2548
อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นถึง 2 เรื่องเมื่อคุณพ่อของดงเฮ 1 ในสมาชิกในวง
เกิดเสียชีวิตลงอย่างกระทันหันด้วยอาการป่วยเรื้อรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2548
ทำให้สมาชิกในวงต้องเดินทางกลับไปยังเกาหลีใต้เพื่อร่วมพิธีศพที่จัดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2548
หลังจากเสร็จสิ้นงานพิธีศพแล้ว ในระหว่างการเดินทางกลับของ 1 ในสมาชิกในวง ฮีชอล
ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ขา
ซึ่งแพทย์ระบุว่าฮีชอลนั้นต้องพักงานนานเป็นเวลากว่า 3-6 เดือนด้วยกัน
ส่งผลให้ซูเปอร์จูเนียร์จำเป็นต้องพักงานที่รับไว้ในช่วงหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น 1 สัปดาห์เกือบทั้งหมด
ในคืนวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2550 เวลา 00.21 น. อีทึก อึนฮยอก ชินดง และคยูฮยอน
ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างการเดินทางกลับมาจากการอัดรายการวิทยุ "Kiss The Radio"
บนทางด่วน ใกล้แยกบริเวณสะพานทงจัก (Dongjak Bridge) แพทย์เปิดเผยว่า คยูฮยอน อาการหนักสุด
เพราะกระดูกซี่โครงขวาหัก ปอดเลือดไหลไม่หยุด กระดูกเชิงกรานและข้อเท้าหัก
ซึ่งจะต้องเข้าตรวจรักษาอย่างใกล้ชิด ในขณะที่สมาชิกคนอื่น ๆ มีอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
จากการบาดของเศษกระจกที่แตกเท่านั้น โดยสมาชิก คยูฮยอนนั้นได้พักงานเป็นเวลาประมาณ 5 เดือนเต็ม
ก่อนจะกลับมาทำงานต่อได้ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2550
แนวความคิดของการเพิ่มสมาชิกและ "เราต้องการ 13"
หลังจากการประกาศครั้งแรกของเอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์ ในเรื่องการก่อตั้งกลุ่มย่อย
ซูเปอร์จูเนียร์ ไชน่า (Super Junior Chinaหรือภายหลังได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม
ได้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากกลุ่มแฟนคลับที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว ใ
นเบื้องต้น เว็บไซต์และเครื่อข่ายได้ถูกจัดตั้งขึ้นในชื่อ "เราต้องการ 13 (Only 13)"
เพื่อเป็นที่รวบรวม และวางแผนการณ์ต่อต้านโครงการดังกล่าว ในช่วงแรก
พวกเขามีแนวคิดที่ทำการคว่ำบาตรสินค้าทุกชนิดของเอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์
ดังเช่นที่กลุ่มแฟนคลับของ ดง บัง ชิน กิ เคยทำในอดีต แต่ในภายหลัง
สมาชิกส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าว และเลือกที่จะใช้สันติวิธีแทน
โดยกลุ่มแฟนจำนวนหลายร้อยคนได้ไปรวมตัวกันอย่างสงบที่หน้าที่ทำการของเอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์
ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ แล้วชูป้ายเรียกร้องให้ทางเอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์ยกเลิกแผนการดังกล่าวเสีย
แต่สถาณการณ์กลับยิ่งแย่ลงกว่าเดิม เมื่อภายหลังเอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า
ซูเปอร์จูเนียร์ นั้นไม่ใช่กลุ่มถาวร ทั้งๆที่เคยได้ประกาศไว้เมื่อช่วงกลางปี พ.ศ. 2549
ในตอนที่เพิ่มสมาชิกคนที่ 13 คยูฮยอน ว่าซูเปอร์จูเนียร์จะเป็นกลุ่มถาวร
แฟนๆนับพันคนได้เขียนจดหมายไปยังผู้บริหารของ เอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์
เพื่อขอความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
กลุ่มแฟนคลับนับพันคน ได้ไปร่วมชุมนุมที่หน้าที่ทำการของเอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์ อีกครั้ง
ในครั้งนี้ พวกเขาได้ร่วมร้องเพลงหลายเพลงของซูเปอร์จูเนียร์ และตะโกนคำว่า "เราต้องการ 13 (Only 13)"
ในที่สุด เอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์ ได้ออกมาให้คำตอบกับกลุ่มแฟนคลับว่า ศิลปินภายนอกนั้น
จะถูกเข้าไปในกลุ่ม ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม แต่จะไม่ถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มหลัก อย่างไรก็ดี
ก็ยังมีแฟนคลับจำนวนหนึ่งยังคงปักใจเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะได้เห็นสมาชิกคนใหม่
ของซูเปอร์จูเนียร์ และเมื่อมีข่าวรั่วออกมาอีกว่า จะมีการเพิ่มโจว มี่ สมาชิกภายนอกเข้าไปกลุ่ม
ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม เหล่าแฟนคลับได้ตัดสินร่วมกันลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทเอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์
โดยในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2551 มีรายงานว่ากลุ่มแฟนคลับได้ทำการซื้อหุ้น
เป็นจำนวนกว่า 58,206 หุ้น โดยคิดเป็น 0.3% ของหุ้นทั้งหมด และพวกเขาได้ออกแถลงการณ์
ยืนยันว่าจะทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งแผนการเพิ่มสมาชิกเข้าไปในซูเปอร์จูเนียร์ให้จงได้
Wiki
บทความดีๆ ที่น่าอ่าน จากฟอเวิร์ดเมลล์
วันนี้ E.L.F THAI กลับจะทำให้ความเชื่อใจจาก E.L.F ด้วยกันลดลงไป ด้วยคำพูดว่า
“14 คนก็ได้” “ทำไม E.L.F เกาหลีใจร้าย”
“ไม่สงสารเฮนรี่บ้างเหรอไง”
“ทำแบบนี้คิดว่าเอสเจจะดีใจหรือไง”
และคำพูดที่น่ารังเกียจที่สุดก็คือ
“คยูฮยอนก็เหมือนกันไม่ใช่หรอ”
งั้นจะอธิบายให้เข้าใจกันอีกทีนะคะ ว่าถ้ามันมี 14 คนแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แล้วจะอธิบายให้เข้าใจว่าเอสเจดีใจหรือไม่ที่เอลฟ์ประท้วง จะย้ำให้เข้าใจอีกครั้งว่า กรณีของคยูฮยอนกับเฮนรี่นั้นต่างกันอย่างไร
ก่อนอื่นขออธิบายในเรื่องของคยูกับเฮนรี่ให้เข้าใจก่อนนะ Super Junior05
ในตอนแรกนั้นเป็นโปรเจคหนึ่งของ SM นั่นก็หมายความว่าเอสเจจะมีคนเข้าๆออกๆตลอดเวลา
เป็นต้นว่าหากเอสเจเป็นโปรเจค พอถึงช่วงเวลานึงเอสเอ็มเอาอีทึกออก แล้วก็จะเอาคนอื่นเข้ามาแทน
นั่นแหละที่ทำให้เอลฟ์ต้องออกมาประท้วง จนเอสเอ็มให้ข้อตกลงว่าถ้าคยูฮยอนเข้ามา
เอสเจจะกลายเป็นวงถาวร ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเอสเจจะยังคงอยู่ต่อไปโดยมี
อีทึก ฮีชอล ฮันกยอง เยซอง คังอิน ชินดง ซองมิน อึนฮยอก ทงแฮ ชีวอน รยออุค คิบอม และคยูฮยอน
เป็นเมมเบอร์ทั้ง 13 คนของเอสเจ ฉะนั้นขอให้เข้าใจว่าคยูฮยอนคือส่วนเติมเต็มของซุปเปอร์จูเนียร์
และ อย่าเอามาเปรียบเทียบกันอีก
ส่วนในกรณีของเฮนรี่ หากเรายอมรับเฮนรี่เป็นสมาชิกคนที่ 14
นั่นหมายความว่าเรายินยอมที่จะให้เอสเจกลับไปเป็นโปรเจคอีก จะมีการเพิ่มสมาชิกเข้ามา
และสามารถเอาสมาชิกออกได้ และวงก็จะไม่มั่นคง อีกเรื่องก็คือบางคนบอกว่า
“ทำแบบนี้ไม่กลัวเอสเจจะเครียด จะกดดันหรือไง คิดว่าเอสเจจะดีใจหรือไง”
งั้นเราจะขอถามคนที่คิดแบบนี้หน่อยนะ อยากรู้ว่าคุณจะตอบคำถามพวกนี้ได้มั้ย
แล้วจะยังคิดอยู่อีกหรือป่าว ว่าสิ่งเอลฟ์ทำคือสิ่งที่เอสเจไม่ได้ต้องการ
คุณทราบหรือไม่ที่E.L.Fประท้วงกันมามากกว่า 6 ครั้งเพื่อให้ซุปเปอร์จูเนียร์เป็นวงถาวร
แล้วคุณเคยได้ยินเอสเจออกมาพูดมั้ยว่าสิ่ง E.L.F ทำนั้นไม่ดี
ทำไมอีทึกถึงต้องขอบคุณE.L.F ที่ออกมาประท้วง
ทำไมฮีชอลที่เป็นคนแรกที่ออกมาพูดให้ E.L.F ยอมรับเฮนรี่ แต่ในไซกลับเขียนว่า 13-1=0 13+1=0
ทำไมอึนฮยอกถึงต้องร้องอังกอเพลงแมรี่ยูตรงคำว่า"ยอลเซมยอง" ที่แปลว่า13 คน พร้อมๆกับE.L.Fด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ทำไมคยูฮยอนออกมาอัพไซในวันเกิดว่า ซุปเปอร์จูเนียร์ไม่ได้เริ่มต้นที่ทึกจบที่คยูอีกต่อไป แต่เริ่มต้นที่ทึกจบที่ E.L.F
ทำไมซีวอนถึงพูดว่า "13 คนวงซุปเปอร์จูเนียร์ต้องอยู่ด้วยกัน" ทั้งๆที่คำถามไม่เกี่ยวกันเลย
คุณสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้มั้ยคะ ยังกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำมั้ยว่าเอสเจ ไม่ต้องการ
ทั้งหมดที่เราพิมพ์มารวมไปถึงคนที่คิดแบบเราอีกมากมาย
ต้องการและพยายาม พยายามอย่างมากที่จะให้คนบางกลุ่มและคนบางคนได้เข้าใจ
จนทั้งเหนื่อยใจและท้อใจที่จะพูดเรื่องพวกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เพราะพวกเราคิดไงคะ
คิดว่าเอลฟ์เกาหลีน่ะเค้าหนักกว่าเราหลายเท่า ทนแดดทนฝนเพื่อสร้างคลื่นซัฟไฟร์ที่สวยงามที่สุด
อดทนกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาเพื่อคำว่า Only 13
ทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความเชื่อใจที่เอสเจมีให้ ในขณะที่พวกเราที่อยู่ที่นี่
ไม่สามารถทำอะไรได้ หนำซ้ำยังต่อว่าเอลฟ์ต่างๆนานา เพียงเพราะคำว่าสงสาร
คุณบอกคุณสงสารเฮนรี่ จึงไม่อยากตะโกนคำว่า “ยอลเซมยอง” ในคอนเอสเจที่จะจัดในไทย
คุณบอกว่าทำไมไม่ยองวอนฮี นี่แหละที่เราไม่เข้าใจ...เอลฟ์ทั่วโลกคิดเพียงอย่างเดียวว่าจะ
ทำยังไงให้เอสเจได้รู้ ได้รู้ว่าเอลฟ์ในประเทศของตนนั้นก็ต้องการตอบสนองความเชื่อใจ
ที่เอสเจมีให้เช่นกัน แต่คนไทยพูดว่าสงสารเฮนรี่ฉะนั้นอย่าเลย
มันโหดร้ายเกินไป ใช่...มันโหดร้ายเกินไป มันน่าสงสารเกินไป...
ที่พูดไม่ได้หมายถึงเฮนรี่หรอกนะคะ แต่หมายถึงเอสเจต่างหาก
ทั้งๆที่แม้แต่ฮยอกยังพูดคำคำนี้ไปพร้อมกับเอลฟ์ ทั้งๆที่ตอนชีวอนกับคิบอมมาไทย
ชีวอนก็พูดตอนสัมภาษณ์ซี้ดไว้อย่างชัดเจนว่า “เรา 13 คน ต้องอยู่ด้วยกัน” เราไม่คิดว่า
เค้าต้องการจะบอกแค่เอลฟ์เกาหลีเท่านั้นหรอกนะคะ เค้าพูดที่ไทยไม่ได้หมายความว่า
เค้าต้องการที่จะบอกพวกเราเหมือนกันอย่างนั้นหรอ? แล้วทำไมพวกเราถึงยังไม่กล้าพอ
ยังไม่กล้าพอที่พูดคำว่า “ยอลเซมยอง” อีกล่ะคะ หรือสำหรับคุณแล้วคำคำนี้มันแย่มาก
แย่จนถึงขนาดที่ทำให้คุณ ไม่ยอมตอบสนองต่อความเชื่อใจที่พี่ชายทั้ง 13 คนมีให้คุณ
หรือเพราะว่าคุณไม่กล้าพอที่จะแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ หรือเพราะมันเป็นโปรเจค
ที่คนบางกลุ่มทำขึ้นมา แล้วบางทีคุณอาจไม่ได้ต้องการแต่ก็ต้องตอบตกลง
ทำไมในเรื่องที่ควรจะแตกต่างคุณถึงไม่ทำ? นี่แหละที่ไม่เข้าใจ
แต่อย่างนึงที่อยากจะบอกถ้าหากพวกเรายังเป็นแบบนี้
คงบอกได้คำเดียวว่าคอนเอสเจที่จะจัดในไทย “เละ” แน่นอน ถ้าคุณยังคิดจะพูดยองวอนฮี
ก็ตามแต่คุณ แต่เราคนนึงแหละที่จะตะโกนว่า “ยอลเซมยอง” เพื่อที่ให้เอสเจได้รู้ว่า
พวกเราเองก็ต้องการพวกเค้าเพียง 13 คนเช่นกัน และเพื่อให้ SM ได้รู้ว่าไม่ว่าเอลฟ์ประเทศไหน
ก็ไม่ต้องการโปรเจค SJ China ทั้งนั้น! แม้แต่ประเทศไทยของเราก็ตาม
แล้วคุณล่ะคะ คุณพร้อมที่จะตะโกนคำว่า “ยอลเซมยอง” หรือป่าว^^
มาตะโกนคำคำนี้กันเถอะนะคะ มาตะโกนมันให้พวกพี่ชายที่รักของพวกเราได้ยินกัน
ให้พวกเค้าได้รับรู้เถอะว่าพวกเราเอลฟ์ไทยรักเค้ามากแค่ไหน
มาตะโกนคำคำนี้ให้พวกเค้าได้รับรู้ว่าพวกเราต้องการเค้าแค่ 13 คนอย่างที่พูดกันจริงๆ
เพราะถึงเราจะเป็นคนไทยแต่ยังไง เราก็คือ E.L.F Ever Lasting Friends
*********เพื่อนที่จะอยู่เคียงข้างพวกเค้าตลอดไป*******
จริงอยู่ที่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเอสเจคิดอะไรอยู่... แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้ได้ว่า
เอสเจกำลังรู้สึก...บางอย่างกับการกระทำของเอลฟ์... นั่นก็คือ...
การที่เอสเจไม่ได้ออกมาต่อว่าหรือต่อต้านใดๆ...ไม่ใช่ว่าเอสเจไม่กล้า
หรือไม่พอใจ...แต่เป็นเพราะว่าเอสเจเชื่อมั่นในตัวเอลฟ์...
เอลฟ์รู้ดีว่าสิ่งไหนควรทำ...สิ่งไหนไม่ควรทำ...เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผิด...เอลฟ์จะไม่ทำเด็ดขาด