เว็บไซต์ isplus ของเกาหลีได้ลงบทความและรูปล่าสุดของ เจบอม ที่ถ่ายที่ซีแอทเทิลเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยใต้รูปมีคำบรรยายว่า ..
"ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา เขากลัวที่จะพบกับใครๆเวลานี้ เขาเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และบูมโทรหาเขาทุกวัน"
** ด้านล่างนี้เป็นเพียงแค่แปลแบบสรุปนะคะ บทความแบบเต็มๆจะตามมาเร็วๆนี้ค่ะ ข้อความในจดหมายของเพื่อนคุณพ่อ..คลิ๊กที่นี่ค่ะ
Credit : Kor - Eng by Kirstyn@2pm-online.com, Eng - Thai by Offogato@2pm-online.com, Coordinator: Cassina@2pm-online.com
ISplus : ข่าวเศร้าล่าสุดเกี่ยวเนื่องกับเจบอมจากวง 2PM เพื่อนสนิทของคุณพ่อเจบอมนามว่า "บยอง ฮัก คิม" ได้เล่าเรื่องราวล่าสุดของเจบอมและครอบครัวว่าพวกเขากำลังอยู่ในสภาวะตื่นกลัวและได้ส่งจดหมายขอร้องให้ชาวเกาหลีแสดงความเห็นใจต่อกรณีของเจบอม คุณคิมได้ส่งภาพเจบอมที่ถ่ายในการพบปะระหว่างครอบครัวเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมาอีกด้วย
คุณคิมเคยทำธุรกิจร่วมกับคุณพ่อของเจบอมและยังเป็นเพื่อนบ้านที่เฝ้ามองการเติบโตของเจบอมมาตั้งแต่เขายังเด็ก คุณคิมกล่าวว่าสภาพจิตใจของเจบอมตอนนี้ยังตื่นกลัวกับทุกสิ่งเขาเลยพยายามไม่ออกจากบ้านไปไหน
อย่างเมื่อเร็วๆนี้ เจบอมได้ออกไปสนามเต้นของกลุ่มบีบอยแต่มีคนจำเขาได้และพยายามจะถ่ายรูป เจบอมวิ่งหนีกลับบ้านราวกับว่าเขาถูกใครไล่ล่ามา
แต่ช่วงนี้เจบอมพยายามจะร่าเริงขึ้นเพราะบูมโทรหาเขาทุกวันเพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้น พ่อของเจบอมก็อยู่ในภาวะตื่นกลัวเช่นกัน คุณพ่อเจบอมตอนนี้รับสายโทรศัพท์เฉพาะแต่คนที่คุ้นเคย และทุกครั้งที่มาเจอกับคุณคิม คุณพ่อก็ยังมีน้ำตากับคำติดปากว่า "เจบอมที่น่าสงสาร"
ยิ่งไปกว่านั้น คุณคิมกล่าวเพิ่มว่า "เมื่อเจย์กลับมาที่ซีแอทเทิล คุณพ่อของเขาได้ซื้อเปียโนไฟฟ้ามือสองที่มีอายุ15 ปีมาให้ลูกชายเพื่อให้เขาศึกษาต่อทางด้านดนตรี และเจบอมก็เล่นเปียโนนั้นไปโดยไม่บ่นอะไร คอมพิวเตอร์ที่บ้านของเขาก็ค่อนข้างเก่าจึงใช้งานร่วมกันได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่"
คุณคิมอธิบายถึงสถานะการเงินของครอบครัวเจบอมว่า "บ้านของเจบอมเพิ่งจะผ่อนรถยนต์ฮุนไดรุ่น Elantra แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น พวกเขาก็นำมันไปคืน"
คุณคิมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาที่เจบอมได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ซึ่งเจบอมได้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นลูกชายที่ดีและทำงานอย่างหนักเพื่อครอบครัว ตอนนั้นเจบอมได้พูดกับน้องชายซึ่งสร้างความลำบากใจให้พ่อแม่ว่า "ฉันก็อยากเจอเพื่อนและอยู่กับเพื่อนเหมือนอย่างที่นายทำ แต่นายรู้ไหมว่าทำไมฉันต้องทำงานหนักขนาดนี้ ต้องผ่านความยากลำบากและความทรมานอย่างนี้? ฉันทำทั้งหมดเพื่อนายและพ่อแม่ของเรา ทำไมไม่คิดตรงนี้บ้าง"
คุณคิมกล่าวเพิ่มอีกว่า "ผมคิดว่าตอนนึ้ถึงเวลาแล้วที่ผู้คนควรจะเข้าใจเจบอมและแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อคนเกาหลี-อเมริกันที่ทำงานอย่างหนักคนหนึ่ง ผมไม่ขอให้คุณต้องมาปูพรมแดงให้เขา ผมแค่ขอให้พวกคุณดูแลเจบอมไม่ให้เขากลัวประเทศแม่ของเขาและรู้สึกถึงความอบอุ่นได้อีก"
สุดท้าย คุณคิมได้จบข้อความจดหมายด้วยบทสนทนาระหว่างเขากับเจบอมในการพบกันระหว่างครอบครัวไว้ว่า
"เจบอม! นายอยากจะกลับไปเกาหลีมั้ย?"
"อยากครับ...แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"
credit:2pm-online.com